Powered By Blogger

วันจันทร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

แดด มี แดด มา เอา มาตากแดด กันเชื้อ รา
ID Line : thetreeagrotech
Call  064-645 8169

#thelittlegoodygardenfarm
#บ้านผักสุขภาพดี_ผักไฮโดรโปนิกส์_ผักสวนครัว
#The_Tree_Agrotech_Thailand





วันพุธที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2562

Conversation Listening Reading Speaking Writing

บ้านสอนพิเศษภาษาอังกฤษแอดโฮม Let's learning English
สนใจคอร์สเรียน ติดต่อ TEL: 094-6232995 (KruNoynar)
เปิดสอนอนุบาล 3 - ประถมต้น-ประถมปลาย
เปิดสอนภาษาอังกฤษ มัธยมต้น-มัธยมปลาย
ღ เรียนรู้ภาษาอังกฤษต้อนรับ EEC ღ
แบบธรรมชาติของการเรียนรู้ เริ่มฟัง พูด อ่าน และเขียนประโยค
ღ ฝึกฝน คิด พูด เขียน ทำแบบฝึกหัด พัฒนาตนเอง ღ
Conversation Listening Reading Speaking Writing
ภาษาอังกฤษตั้งแต่เริ่มต้น พูดได้ อ่านออก เขียนประโยคเป็น
บ้านสอนพิเศษภาษาอังกฤษแอดโฮม Let's learning English
TEL: 094-623 2995, 081-469 6632 (KruNoynar)

วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

ฮวงจุ้ยบ้าน : ปลูกต้นไผ่

Page Liked · February 26, 2015 













ต้นไผ่ที่จะใช้ปลูกล้อมพื้นที่บ้านวัว-มังกรบินให้เกิดความร่ำรวยและได้รับการสนับสนุนอุ้มชูช่วยเหลือจากผู้ค


บ้านที่มีรั้วเป็นต้นไผ่ล้อมพื้นที่จะทำให้เกิดความมั่งคั่งร่ำรวย
และมีคนมากมายคอยให้ความช่วยเหลือสนับสนุน





การปลูกไผ่ทำเป็นรั้วอย่างที่บ้านภูเขานี้ ต้องใช้ไผ่เขียว ปลูกหนาแน่นแข็งแรง และมีการตกแต่งให้เป็นระเบียบ ไม่ให้ไผ่โตรกเกินไป ซึ่งไผ่ในทางฮวงจุ้ยเป็นตัวแทนของความร่ำรวย อุดมสมบูรณ์




"ไผ่โรบัสต้า" หนึ่งในไผ่ชนิดต่างๆ อันเป็นตัวแทนของไม้มงคลและเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่ง อุดมสมบูรณ์ ที่อาจารย์หม่าคัดเลือกมาปลูกที่บ้านภูเขา (บ้านจักรพรรดิ์)




"ไผ่เหลือง" หนึ่งในไผ่ชนิดต่างๆ อันเป็นตัวแทนของไม้มงคลและเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่ง อุดมสมบูรณ์ ที่อาจารย์หม่าคัดเลือกมาปลูกที่บ้านภูเขา (บ้านจักรพรรดิ์)




"ไผ่น้ำเต้าลายทอง" หนึ่งในไผ่ชนิดต่างๆ อันเป็นตัวแทนของไม้มงคลและเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่ง อุดมสมบูรณ์ ที่อาจารย์หม่าคัดเลือกมาปลูกที่บ้านภูเขา (บ้านจักรพรรดิ์)


#ยำมะม่วงใ่ส่แหนม



อากาศ ขมุกขมัว 🌧☔️
#ยำมะม่วงใ่ส่แหนม. ....เข้าปาก ...รสชาสอร่อยล้ำ 😋
#thelittlegoodygardenfarm
#thetreeagrotech_Thailand
#บ้านสวนผักสุขภาพดีผักสวนครัว_ผักออเเกร์นิค_ผักไฮโดรโปนิกส์
#Good_Garden_Home_and_Hydroponics_farm

วันจันทร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2560

เข้าใจฮวงจุ้ยแก้ไขดวงชะตาที่ดี ตอนที่ 21 ศัพท์เทคนิคที่มักใช้ประจำในทางฮวงจุ้ย

เข้าใจฮวงจุ้ยแก้ไขดวงชะตาที่ดี ตอนที่ 21

ศัพท์เทคนิคที่มักใช้ประจำในทางฮวงจุ้ย


ศัพท์เทคนิคที่มักใช้ประจำ
· ปากทางน้ำ (水口 สุ่ยโข่ว)
ปากทางน้ำเป็นเนื้อหาที่สำคัญในการดูพื้นที่ชัยภูมิ ที่เรียกว่าปากทางน้ำก็คือบริเวณที่กระแสน้ำไหลเข้าหรือกระแสน้ำไหลออก บริเวณที่น้ำมาเรียกว่า ประตูสวรรค์ (天門 เทียนเหมิน) ถ้าหากน้ำที่มามองไม่เห็นจุดกำเนิดของน้ำไหลเรียกว่า ประตูสวรรค์เปิด บริเวณน้ำไปเรียกว่าประตูพื้นดิน (地戶 ตี้ฮู่) ถ้ามองไม่เห็นน้ำไปเรียกว่า ประตูพื้นดินปิด ภูเขาที่อยู่ทางฝั่งทั้งสองข้างของบริเวณกระแสน้ำไหลไปเรียกว่า เนินเขาปากทางน้ำ (水口砂 สุ่ยโข่วซา) ปากทางน้ำถ้าหากว่าไม่มีเนินเขาสภาวการณ์ของน้ำก็จะไหลเชี่ยวกรากตรงออกไป
ขอบเขตของปากทางน้ำมีทั้งเล็กมีทั้งใหญ่ จากน้ำไหลเข้าจนถึงน้ำไหลออก บริเวณพื้นที่ทั้งหมดที่กระแสน้ำไหลผ่านก็คือขอบเขตของปากทางน้ำ ขอบเขตของปากทางน้ำเป็นอัตราส่วนของความมั่งคั่งร่ำรวย เนื้อที่ในการบรรจุปากทางน้ำที่ยิ่งกว้างใหญ่ ปริมาตรบรรจุที่จะสามารถรองรับได้ก็จะยิ่งมาก เนื้อที่รวมในการสร้างบุญวาสนาก็จะยิ่งมากด้วย ความคิดของปากทางน้ำนั้นค่อนข้างที่จะถูกต้อง ในปากทางน้ำขนาดใหญ่จะมีปากทางน้ำขนาดเล็ก เนื้อที่ของปากทางน้ำขนาดเล็กหลายๆ แห่งจะก่อตัวเป็นเนื้อที่ปากทางน้ำขนาดใหญ่ ในแต่ละหมู่บ้านก็จะมีปากทางน้ำในหมู่บ้าน ในแต่ละเมืองก็จะมีปากทางน้ำของแต่ละเมือง ในแต่ละมณฑลก็จะมีปากทางน้ำของแต่ละมณฑล

· ตำแหน่ง (穴 เซวี่ยะ) และการเลือกตำแหน่ง (點穴 เตี่ยนเซวี่ยะ)
ตำแหน่ง (穴 เซวี่ยะ) แบ่งออกเป็นตำแหน่งหยิน (陰穴 อินเซวี่ยะ) ตำแหน่งหยาง (陽穴 หยางเซวี่ยะ) ตำแหน่งหยางหมายถึงพื้นที่ตั้งของที่อยู่อาศัย ตำแหน่งหยินก็หมายถึงสุสานของคนตาย
เซวี่ยะ (穴) ความหมายเดิมคือ ห้องดิน เซวี่ยะ (穴) มีทั้ง รู รัง ถ้ำ หรือ บริเวณจุดที่ฝังเข็มรมยา เป็นต้น อาจารย์ฮวงจุ้ยใช้ตำแหน่งเป็นสุสานของคนตายหรือที่อยู่อาศัยของคนเป็น หรือก็คือ ตำแหน่งหมายถึง พื้นที่ตั้งที่เป็นรูปธรรม เป็นจุดๆ หนึ่งในบริเวณพื้นที่ชุมชนที่มีการกำหนดเลือกขอบเขตที่ค่อนข้างใหญ่ การเลือกตำแหน่ง (點穴 เตี่ยนเซวี่ยะ) ก็หมายถึงการชี้เฉพาะเจาะจงหรือกำหนดพื้นที่ตั้งสิ่งก่อสร้างที่แน่ชัด
อาจารย์ฮวงจุ้ยเชื่อว่าตำแหน่งเป็นสิ่งที่ฟ้าสร้าง ก็คือมีมังกรดำรงชีวิตอยู่จึงจะเป็นตำแหน่งที่มีชีวิต ตำแหน่งอย่างไรจึงจะดี ก่อนอื่นต้องการมังกรที่แท้จริง มองดูพื้นที่แล้วจึงเลือกตำแหน่ง เมื่อเลือกตำแหน่งแล้วก็สำรวจมังกร มังกรที่แท้จริงจำเป็นจะต้องประสานตำแหน่ง ต่อมาจึงค่อยดูมังกรเขียว เสือขาว หมิงถัง และ ปากทางน้ำ จะต้องมีลักษณะที่หรูหราและน่าเกรงขาม ภูเขาและสายน้ำที่ด้านหน้าคือแท้จริง ภูเขาและสายน้ำที่ด้านหลังคือปลอม ป้องลม รับน้ำ กักพลัง คือมีชีวิต ลมพัด น้ำสั่นไหว พลังกระจาย คือตาย
อาจารย์ฮวงจุ้ยเชื่อว่าการเลือกตำแหน่งเป็นเรื่องที่ยากมากอย่างหนึ่ง ใช้เวลาสามปีในการแสวงหามังกร แต่ต้องใช้เวลาสิบปีในการเลือกตำแหน่ง การเลือกตำแหน่งเป็นหัวใจสำคัญที่สุดในศาสตร์การดูพื้นที่ชัยภูมิ หลังจากที่ดูชีพจรมังกรและหมิงถังแล้วก็ต้องทำการเลือกตำแหน่ง การเลือกตำแหน่งผิดทุกอย่างก็จะเสียแรงเปล่า ซ้ายก็ไม่ได้ ขวาก็ไม่ได้ ผิดเพียงแค่นิดเดียวทุกอย่างก็จะไม่เป็นผล วาสนาก็จะกลายเป็นหายนะได้

· เนินเขา (砂 ซา)
เนินเขา คือ ภูเขาที่อยู่รอบทั้งสี่ด้านของตำแหน่ง ความคิดฮวงจุ้ยเชื่อว่า ภูเขาหนาคนจะอุดมสมบูรณ์ ภูเขาผอมชะลูดคนจะหิวโซ ภูเขาใสสะอาดคนจะมีเกียรติ ภูเขาชำรุดเสียหายคนจะโศกเศร้า ภูเขารวมกันคนจะชุมนุมกัน ภูเขาไปคนก็จะจากไป ภูเขายืดขยายยาวคนจะมีความกล้าหาญ ภูเขาหดเล็กคนจะต่ำต้อย ภูเขาสว่างคนจะบรรลุถึงผลสำเร็จ ภูเขามืดคนจะหลงใหลงมงาย รูปทรงของภูเขาเปลี่ยนแปลงไม่แน่นอน ด้านซ้ายมองดูแล้วเป็นทรงเหลี่ยม ด้านขวามองดูแล้วเป็นทรงกลม มองจากทางด้านบนแล้วตรง มองจากทางด้านล่างแล้วเอียง มองจากทางด้านตรงแล้วน่าเกลียด มองจากทางด้านข้างแล้วสวยงาม
จะทำให้รูปทรงภูเขาเปลี่ยนแปลง หัวใจสำคัญอยู่ที่การเลือกตำแหน่ง การเลือกตำแหน่งได้ดีก็จะสามารถทำให้ภูเขาที่อยู่ไกลกลายเป็นใกล้ ภูเขาสูงกลายเป็นเตี้ย ภูเขาน่าเกลียดกลายเป็นสวยงาม ภูเขาที่เลวร้ายกลายเป็นยอดเยี่ยม ภูเขาไปกลายเป็นกลับมา ภูเขาลาดเอียงกลายเป็นตั้งตรง
ที่ด้านข้างสองฝั่งทางด้านหน้าตำแหน่งคือเนินเขา ซื่อซา (侍砂) สามารถต้านทานลมที่เลวร้าย ตั้งแต่ส่วนที่มังกรโอบกอดคือเนินเขา เว่ยซา (衛砂) ด้านนอกสามารถต้านทานลม ด้านในสามารถเพิ่มเติมพลัง โอบกอดพันรอบด้านหน้าตำแหน่งคือเนินเขา อิ๋งซา (迎砂) ด้านหน้าที่ตั้งตระหง่านคือเนินเขา ฉาวซา (朝砂) น้ำมาทางซ้าย เนินเขาเลี้ยวขวา น้ำมาทางขวา เนินเขาเลี้ยวซ้าย
ฮวงจุ้ยยังพิถีพิถันการจัดวางโดยรวม บริเวณโดยรอบของตำแหน่งล้วนมีเนินเขาแห่งความร่ำรวยและมีเกียรติ ถือเป็นมงคล การจัดเรียงของเนินเขาต้องเป็นชั้นๆ ซ้อนกัน มีลำดับหน้าหลัง ซึ่งจะเหมือนมีความหมายว่ามีไมตรี ที่ปลายเนินเขามีกระแสน้ำไหลซู่ซ่าโอบล้อมไหลอย่างเอื่อยๆ ก็คือเนินเขาที่ดี
· ทิศทาง (向 เซี่ยง)
หมายถึงทิศทางของที่อยู่อาศัยหรือสุสาน เมื่อรวมกับมังกร เนินเขา ตำแหน่ง และ น้ำ จะถือเป็นห้าข้อสำคัญใหญ่ของศาสตร์การดูพื้นที่ชัยภูมิ นักวิชาการเชื่อว่า ทิศทางต้องอาศัยด้านหลังเป็นภูเขา ด้านหน้าเป็นสายน้ำ อิงทิศเหนือ ประจัญทิศใต้ หลบเลี่ยงความเป็นอัปมงคล รับความเป็นมงคล ถือเป็นดี การกำหนดทิศทางก็ต้องสำรวจดูลักษณะพื้นที่ และก็ต้องใช้เข็มทิศทำการวัด แล้วจึงค่อยอาศัยทิศทางของลักษณะพื้นที่มาเป็นเงื่อนไขในการตัดสินใจ
· สัญลักษณ์ดวงชะตา (命卦 มิ่งกว้า)
กลุ่มสำนักปาจ๋ายได้นำดวงชะตาคนเราแบ่งออกเป็นสี่ตะวันออกและสี่ตะวันตก ซึ่งเรียกว่า “สัญลักษณ์ดวงชะตา (命卦 มิ่งกว้า)”
คนที่มีสัญลักษณ์ดวงชะตาเป็น ข่าน (坎) ธาตุน้ำ เจิ้น (震) ธาตุไม้ ซวิ่น (巽) ธาตุไม้ และ หลี (離) ธาตุไฟ ถือเป็นคนดวงชะตาตะวันออก เหมาะที่จะประกอบเข้ากันกับทิศตะวันออก ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ทิศใต้ และ ทิศเหนือ สี่ทิศตะวันออกเหล่านี้ ส่วนคนที่มีสัญลักษณ์ดวงชะตาเป็น คุน (坤) ธาตุดิน เกิ้น (艮) ธาตุดิน เฉียน (乾) ธาตุโลหะ และ ตุ้ย (兌) ธาตุโลหะ ถือเป็นคนดวงชะตาตะวันตก เหมาะที่จะประกอบเข้ากันกับทิศตะวันตก ทิศตะวันตกเฉียงใต้ ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ และทิศตะวันออกเฉียงเหนือ สี่ทิศตะวันตกเหล่านี้

· สิบพื้นที่อัปมงคล
มีนักวิชาการฮวงจุ้ยนำเอาการเลือกฮวงจุ้ยสิบประเภทที่ไม่เป็นผลดีต่อหยินจ๋ายและหยางจ๋ายแบ่งออกเป็นสิบพื้นที่อัปมงคล ดังนี้
ขัดต่อเทียนป้าย (天敗) ลูกหลานจะหนีหาย
ขัดต่อเทียนซา (天殺) ลูกหลานจะลำบาก เป็นทุกข์
ขัดต่อเทียนเฉวี๋ยง (天窮) ลูกหลานจะโดดเดี่ยว
ขัดต่อเทียนชง (天沖) ลูกหลานจะเกียจคร้าน เอ้อระเหย
ขัดต่อเทียนชิง (天傾) จะพ่ายแพ้สูญสิ้น
ขัดต่อเทียนซือ (天濕) โรคภัยไข้เจ็บจะรุมเร้า
ขัดต่อเทียนยวี่ (天獄) ลูกหลานจะดื้อรั้น โง่เขลา
ขัดต่อเทียนโก่ว (天狗) ลูกหลานจะเนรคุณ
ขัดต่อเทียนหมอ (天魔) ลูกหลานจะยากจนข้นแค้น
ขัดต่อเทียนคู (天枯) จะสูญสิ้นลูกหลาน

· พลังพิฆาต (煞 ซา)
ในวิชาฮวงจุ้ยเชื่อว่าสิ่งที่ไม่ดีเรียกว่า พลังพิฆาต (煞 ซา) พลังพิฆาตที่มักพบในชีวิตประจำวันมี
ฝ่านกวงซา (反光煞 พลังพิฆาตแสงสะท้อน)-เนื่องจากการสะท้อนแสงของพระอาทิตย์ ผิวน้ำ และกระจก จึงถูกเรียกว่า ฝ่านกวงซา (反光煞 พลังพิฆาตแสงสะท้อน)
เกอเจี่ยวซา (割腳煞 พลังพิฆาตเกี่ยวขา)-จะเห็นน้อยมากในเมือง เพราะเป็นบ้านที่อยู่ติดกับน้ำ หรือเป็นอาคารใหญ่ที่อยู่ใกล้ผิวน้ำ
เหลียนเตาซา (鐮刀煞 พลังพิฆาตรูปเคียว)-คือสะพานที่โค้งหรือถนนที่มีรูปทรงโค้ง
กูเฟิงซา (孤峰煞 พลังพิฆาตยอดเขาโดดเดี่ยว)-หมายถึงอาคารที่ตั้งตระหง่านอยู่เพียงอาคารเดียว หน้า หลัง ซ้าย ขวา ไม่มีภูเขาหรืออาคารให้พึ่งพิง
เชียงซา (槍煞 พลังพิฆาตรูปปืน)-นี่เป็นพลังที่ไร้ตัวตนชนิดหนึ่ง ที่เรียกว่า “ถนนตรงสายหนึ่ง ปืนกระบอกหนึ่ง” ก็หมายถึง ประตูบ้านตรงกับทางเดินตรงยาวเส้นหนึ่ง ก็คือการขัดต่อเชียงซา
ป๋ายหู่ซา (白虎煞 พลังพิฆาตเสือขาว)-หมายถึงทางด้านขวาของที่อยู่อาศัยมีสภาวการณ์ของการก่อสร้างหรือการขยับหน้าดิน
เทียนจ่านซา (天斬煞 พลังพิฆาตผ่ากลางฟ้า)-อาคารสองหลังอยู่ใกล้กันมากเกินไปจนทำให้ระหว่างอาคารทั้งสองหลังนี้ก่อเกิดเป็นช่องโหว่ที่แคบเล็ก มองไกลๆ ก็จะเหมือนกับอาคารถูกขวานฟันลงมาจากบนฟ้า ผ่าแยกจากหนึ่งเป็นสอง
ชวานซินซา (穿心煞 พลังพิฆาตทะลุกลางใจ)-อาคารที่ถูกสร้างรถไฟใต้ดินหรืออุโมงค์ใต้ดินทะลุผ่านใต้พื้นอาคารไป ก็คือการขัดต่อชวานซินซา
เหลียนเจินซา (廉貞煞)-โดยทั่วไปแล้วฮวงจุ้ยจะให้ความสำคัญกับด้านหลังมีหลักให้พึ่งพิงอาศัย แต่ถ้าหากภูเขาที่ให้พึ่งพิงอาศัยนั้นไม่ใช่ภูเขาที่มีชื่อ แต่เป็นภูเขาหินขรุขระมีเหลี่ยมแหลม ไม่มีแม้แต่ต้นไม้ใบหญ้าขึ้น ในวิชาฮวงจุ้ยก็จะเรียกว่าเป็นเหลียนเจินซา
เทียนเฉียวซา (天橋煞 พลังพิฆาตสะพาน)-สะพานหรือสะพานลอยจากที่สูงและลงมามักจะมีสภาวการณ์ไปของความลาดเอียงโค้งงอ สะพานเป็นน้ำปลอม ความลาดเอียงไปก็คือน้ำไป
คายโข่วซา (開口煞 พลังพิฆาตเปิดปาก)-เมื่อคุณเปิดประตูบ้านของตัวเองแล้วมองเห็นประตูลิฟต์เปิดปิด ก็จะเหมือนกับปากของเสือนั่นเอง
ชงซา (沖煞 พลังพิฆาตปะทะ)-พูดจากมุมมองทางฮวงจุ้ย ที่อยู่อาศัยที่อยู่ต่ำกว่าชั้นห้าลงมาจะค่อนข้างขัดต่อชงซาได้ง่าย เพราะว่าที่อยู่อาศัยโดยมากแล้วจะถูกเสาไฟฟ้าหรือต้นไม้บดบัง

· สภาวการณ์ (形勢 สิงซื่อ)
สภาวการณ์ (形勢 สิงซื่อ) ในศาสตร์การดูพื้นที่ชัยภูมิหมายถึงลักษณะภูมิประเทศ (地形 ตี้สิง) และภูมิประเทศที่หมายถึงลักษณะความสูงต่ำของพื้นที่ (地勢 ตี้ซื่อ) ซึ่ง สิง (形 รูปลักษณ์ รูปร่าง) กับ ซื่อ (勢 อิทธิพล แนวโน้ม) มีความแตกต่างกัน อาจารย์ฮวงจุ้ยเชื่อว่า พันเมตรคือ ซื่อ (勢) ร้อยเมตรคือ สิง (形) รูปลักษณ์เล็กกว่าอิทธิพลแนวโน้ม อิทธิพลแนวโน้มใหญ่กว่ารูปลักษณ์ อิทธิพลแนวโน้มคือทิวทัศน์ที่อยู่ไกล รูปลักษณ์คือการมองในระยะใกล้ รูปลักษณ์คือเนื้อที่ของอิทธิพลแนวโน้ม อิทธิพลแนวโน้มคือความสูงส่งของรูปลักษณ์ มีอิทธิพลแนวโน้มหลังจากนั้นจึงค่อยมีรูปลักษณ์ มีรูปลักษณ์แล้วหลังจากนั้นจึงค่อยรู้จักอิทธิพลแนวโน้ม อิทธิพลแนวโน้มตั้งอยู่ก่อนรูปลักษณ์ รูปลักษณ์ก่อตัวขึ้นหลังจากอิทธิพลแนวโน้ม รูปลักษณ์อยู่ด้านใน อิทธิพลแนวโน้มอยู่ด้านนอก รูปลักษณ์คือภูเขาลูกเดียว อิทธิพลแนวโน้มคือกลุ่มเขาที่ขึ้นลง รู้จักอิทธิพลแนวโน้มนั้นยาก มองดูรูปลักษณ์นั้นง่าย
· ยุคใหญ่ (大運 ต้ายวิ่น) และยุคเล็ก (小運 เสี่ยวยวิ่น)
เจี่ยจื่อ (甲/子) หกสิบปี เป็นหนึ่งหยวน หนึ่งหยวน หกสิบปี เป็นยุคใหญ่ ในหนึ่งหยวนทุกๆ ยี่สิบปีเป็นยุคเล็ก นักวิชาการฮวงจุ้ยนำมาใช้กำหนดความรุ่งเรืองความเสื่อมถอยของพลังพื้นดิน (地氣 ตี้ชี่)

· ไท่สุ่ย (太歲)
ไท่สุ่ย (太歲) หมายถึงดาวไท่สุ่ย พูดให้ถูกต้องจริงๆ แล้วก็คือ ดาวจูปิเตอร์ในกลุ่มดาวทางช้างเผือก ดาวจูปิเตอร์เป็นดาวเคราะห์ที่ใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะจักรวาล ฉะนั้นดาวดวงนี้จึงเป็นดาวอันดับแรกของกลุ่มดาวที่มีต่อแรงโน้มถ่วงของโลก
ดาวจูปิเตอร์เป็นดาวเคราะห์ดวงหนึ่งที่มีความสะดุดตาต่อผู้คนมากที่สุดในระบบสุริยะจักรวาล ความสว่างของมันเป็นรองเพียงแค่ดาววีนัสเท่านั้น สมัยจีนโบราณเรียกมันว่า “ซุ่ยซิง (歲星)” ซึ่งนำมันมาใช้จดบันทึกปี เนื่องจากได้รู้ว่ารอบระยะเวลาในการโคจรของมันใกล้กับยี่สิบปี และปีสิบสองนักษัตรก็เปลี่ยนแปลงไปตามการโคจรของไท่สุ่ย ในทุกๆ ปีที่ดาวจูปิเตอร์มาถึงทิศทางใดทิศทางหนึ่งบนโลก ก็จะเพิ่มเติมแรงโน้มถ่วงของโลกในทิศทางนั้นให้แข็งแกร่ง และไท่สุ่ยจะเปลี่ยนแปลงไปตามแต่ละปี

· หมิงถัง (明堂)
ในฮวงจุ้ยเรียกด้านหน้าประตูบ้านของหยางจ๋ายหรือขอบเขตด้านหน้าของ หยินจ๋ายว่า หมิงถัง (明堂) ซึ่งเป็นบริเวณที่พลังพื้นดิน (地氣 ตี้ชี่) มาชุมนุมรวมตัวกัน หมิงถังต้องสะอาด กว้างขวาง ป้องลม กักพลัง เป็นดี การดูพื้นที่ชัยภูมิต้องเลือกหมิงถังที่ดี หลังจากนั้นจึงค่อยเลือกตำแหน่ง เพื่อบรรลุถึงเป้าหมายในการรับความเป็นมงคลหลีกเลี่ยงความเป็นอัปมงคล

· การเลือกความเป็นมงคล (擇吉 เจ๋อจี๊)
การเลือกความเป็นมงคลคือเทคนิคอย่างหนึ่ง สิ่งที่ทำการเลือกนั้นก็คือเวลาและพื้นที่ ส่วนความคุ้มค่าก็คือการได้รับความราบรื่นและเป็นสิริมงคล จุดประสงค์อื่นคือการรับความเป็นมงคลและหลบเลี่ยงความเป็นอัปมงคล เนื้อหาในการเลือกนั้นก็กว้างขวางมาก ที่สำคัญก็มีการเลือกวันที่เป็นมงคล การขยับหน้าดิน การซ่อมแซม การเดินทาง การแต่งงาน การเปิดกิจการ เป็นต้น
การเลือกความเป็นมงคลคือการสะท้อนสภาพการดำรงชีวิตของมนุษย์ธรรมชาติขนาดใหญ่ ได้เสนอเงื่อนไขที่เป็นผลดีมากมายให้แก่มนุษย์ และก็ยังได้เสนอปัจจัยที่ไม่เป็นผลดีมากมายให้แก่มนุษย์ด้วย มนุษย์จะต้องใช้เงื่อนไขของธรรมชาติขนาดใหญ่ให้อย่างเต็มที่ พิชิตควบคุมปัจจัยที่ไม่เป็นผลดีที่ธรรมชาติขนาดใหญ่เป็นผู้สร้างขึ้น ก็คือต้องหลีกเลี่ยงและควบคุมปัจจัยที่ไม่เป็นผลดีเหล่านี้ การเลือกความเป็นมงคลก็คืออาศัยภูมิฟ้าและภูมิดินเป็นพื้นฐาน อาศัยโป๊ยก่วย เก้าดาว 28 กลุ่มดาว ภูมิฟ้า ภูมิดิน ห้าธาตุ ปี เดือน วัน เวลา เป็นต้น ซึ่งเป็นระบบที่ใช้ในการคาดการณ์ความเป็นมงคลและความเป็นอัปมงคล เพื่อให้คนเราดำเนินการทำเรื่องราวต่างๆ ในเวลาที่เป็นผลดี เพื่อบรรลุถึงบทบาทของความปลอดภัย ความราบรื่น และการคลี่คลายเป็นอัปมงคลให้เป็นมงคล เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงสิ่งที่มีอยู่จริงของการแสวงหาการรวมเป็นหนึ่งเดียวกันของ ฟ้า ดิน มนุษย์ ของคนในสมัยโบราณ

ติดตามต่อสัปดาห์หน้านะครับ…สวัสดีครับ

ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับฮวงจุ้ยผ่านทางเฟซบุ๊คได้ที่ เพจฮวงจุ้ยอาจารย์หม่า

https://www.facebook.com/pages/ฮวงจุ้ยอาจารย์หม่า

วันที่ 3/05/2557 เวลา 0:14 น

เข้าใจฮวงจุ้ยแก้ไขดวงชะตาที่ดี ตอนที่ 20 ศัพท์เทคนิคที่มักใช้ประจำในทางฮวงจุ้ย

เข้าใจฮวงจุ้ยแก้ไขดวงชะตาที่ดี ตอนที่ 20

ศัพท์เทคนิคที่มักใช้ประจำในทางฮวงจุ้ย


ศัพท์เทคนิคที่มักใช้ประจำ
· ความหมายแฝงของ 24 ภูเขา
การศึกษาฮวงจุ้ยจำเป็นจะต้องเข้าใจในเรื่องทิศทาง ตำแหน่งพระราชวังของทั้งแปดสัญลักษณ์ใช้ชื่อของทั้งแปดสัญลักษณ์เป็นตัวแทนของทิศเหนือ ใต้ ออก ตก เป็นต้น
พระราชวังเจิ้น (震) คือ ทิศตะวันออก
พระราชวังซวิ่น (巽) คือ ทิศตะวันออกเฉียงใต้
พระราชวังหลี (離) คือ ทิศใต้
พระราชวังคุน (坤) คือ ทิศตะวันตกเฉียงใต้
พระราชวังตุ้ย (兌) คือ ทิศตะวันตก
พระราชวังเฉียน (乾) คือ ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
พระราชวังข่าน (坎) คือ ทิศเหนือ
พระราชวังเกิ้น (艮) คือ ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
ถ้าหากมีคนมาดูฮวงจุ้ยให้คุณแล้วพูดว่า “พระราชวังเจิ้น (震) ในปีนี้มีดาวห้าผีโคจรมายังตำแหน่ง แล้วประตูของบ้านคุณเป็นประตูเจิ้น (震) ปีนี้ครอบครัวจะไม่มีความปลอดภัย” ประตูเจิ้นในที่นี่ก็คือประตูในทิศตะวันออกนั่นเอง
นอกจากทิศทางทั้งแปดพระราชวังแล้ว อาจารย์ฮวงจุ้ยยังจะต้องใช้ทิศทางทั้ง 24 ในการวินิจฉัยความเป็นมงคลและความเป็นอัปมงคล ในแต่ละทิศทางจะมี 15 องศา ในทางฮวงจุ้ยเรียกว่า 24 ภูเขา พวกมันก็คือ เจี่ย (甲) เหม่า (卯) อี่ (乙) เฉริน (辰) ซวิ่น (巽) ซื่อ (巳) ปิ่ง (丙) อู่ (午) ติง (丁) เว่ย ( 未 ) คุน (坤) เซิน (申) เกิง (庚) โหย่ว (酉) ซิน (辛) ซวี (戌) เฉียน (乾) ไห้ (亥) เหยิน (壬) จื่อ (子) กุ่ย (癸) โฉ่ว (丑) เกิ้น (艮) อิ๋น (寅)
เข็มทิศหลัวผาน ใช้ “เหม่า (卯)” เป็นตัวแทนของทิศตะวันออก
ใช้ “อู่” (午) เป็นตัวแทนของทิศใต้
ใช้ “โหย่ว” (酉) เป็นตัวแทนของทิศตะวันตก
ใช้ “จื่อ” (子) เป็นตัวแทนของทิศเหนือ
ใช้ “ซวิ่น” (巽) เป็นตัวแทนของทิศตะวันออกเฉียงใต้
ใช้ “คุน” (坤) เป็นตัวแทนของทิศตะวันตกเฉียงใต้
ใช้ “เฉียน” (乾) เป็นตัวแทนของทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
ใช้ “เกิ้น” (艮) เป็นตัวแทนของทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
เหล่านี้คือภูเขาหลักของแต่ละสัญลักษณ์ แล้วที่ด้านข้างทั้งสองของมันก็จะเป็นทิศที่ค่อนไปอีกทิศทางหนึ่ง เช่น “เฉริน (辰) ซวิ่น (巽) ซื่อ (巳)” ถือเป็นทิศตะวันออกเฉียงใต้ “ซวิ่น (巽)” เป็นทิศตะวันออกเฉียงใต้ตรง ส่วน “เฉริน (辰)” เป็นทิศตะวันออกเฉียงใต้ที่ค่อนไปทางทิศตะวันออก ส่วน “ซื่อ (巳)” เป็นทิศตะวันออกเฉียงใต้ที่ค่อนไปทางทิศใต้ 24 ภูเขาที่เหลือก็เป็นเช่นนี้เช่นกัน

· เทียนซินสือต้าว (天心十道)
เทียนซิน (天心) หมายถึง ใจกลางหมิงถังของหยินจ๋ายและหยางจ๋าย เทียนซินสือต้าว (天心十道) เป็นการยืนยันทิศทางของฮวงจุ้ย อาศัยภูเขาทั้งสี่ทิศทางทั้งหน้า หลัง ซ้าย ขวา ที่มีจุดตัดพอดีกันเป็นพื้นฐาน แล้ววาดเครื่องหมาย  ออกมาตรงใจกลางหมิงถัง ซึ่งก็คือ สือต้าว (十道) อย่างง่ายๆ
ที่เรียกว่าสี่ทิศทางก็หมายถึงภูเขาทางด้านหน้า หลัง ซ้าย ขวา ของใจกลางหมิงถัง และต้องอาศัยความพอดีกันจึงจะดี ถ้าหากทั้งสี่ทิศทางได้สัดส่วนที่ครบถ้วนสมบูรณ์และประสานไปทางตำแหน่ง ฮวงจุ้ยเชื่อว่านี่เป็นปรากฎการณ์แห่งความมีคุณค่า
ในหยางจ๋ายให้วาดเครื่องหมาย 十ไว้ตรงกลางบ่อสวรรค์ (天井 เทียนจิ่ง) สี่ทิศทางก็คือกำแพงทั้งสี่ด้าน โดยมากแล้วจะวาดเครื่องหมาย  ไว้ที่ระหว่างด้านในของประตูใหญ่ของบ้าน ด้านนอกของประตูบ้านด้านใน หรือ ตรงกลางจุดสูงสุดของลานบ้าน หลังจากนั้นใช้เข็มทิศวัดที่จุด 十 เพื่อกำหนดทิศทาง 24 ภูเขา กำหนดสี่บ้านตะวันออกกับ สี่บ้านตะวันตก และ มองดูความสัมพันธ์ที่ร่วมกันของประตูบ้าน ห้องนอน เตา เพื่อกำหนดความเป็นมงคลและความเป็นอัปมงคล

· พลัง (氣 ชี่)
พลัง ในศาสตร์ฮวงจุ้ยถือเป็นเรื่องทั่วไปมาก และเป็นความคิดที่มีความสำคัญมาก มีพลังชีวิต (生氣 เซิงชี่) พลังตาย (死氣 สื่อชี่) พลังหยาง (陽氣 หยางชี่) พลังหยิน (陰氣 อินชี่) พลังดิน (土氣 ถู่ชี่) พลังพื้นดิน (地氣 ตี้ชี่) พลังทวีคูณ (乘氣 เฉิงชี่) การชุมนุมพลัง (聚氣 จวี้ชี่) การรับพลัง (納氣 น่าชี่) ชีพจรพลัง (氣脈 ชี่ม่าย) แม่ของพลัง (氣母 ชี่หมู่) เป็นต้น
พลังเป็นแหล่งกำเนิดของสรรพสิ่ง พลังไม่มีการเปลี่ยนแปลงไม่มีที่สิ้นสุด พลังตัดสินหายนะและบุญวาสนาของคนเรา “หลี่ชี่ (理氣)” เป็นสิ่งที่ซับซ้อนมาก ต้องประสานกันกับหยินหยางห้าธาตุ และในสถานที่จริงนั้นต้องได้รับปรากฏการณ์ความรุ่งเรืองด้วย จึงจะสามารถได้รับ “พลังชีวิต (生氣 เซิงชี่)” เมื่อมีพลังชีวิตแล้วก็จะสามารถเกิดความมั่งคั่งร่ำรวย ฉะนั้นจริงๆ แล้วศาสตร์ฮวงจุ้ยก็คือ “ศาสตร์การมองดูพลัง”
ศาสตร์ฮวงจุ้ยอาศัยพลังเป็นจุดกำเนิดสรรพสิ่ง เชื่อว่าโลกเริ่มต้นจากไม่มี (ไม่เคยเห็นพลัง) ไปจนถึงมี (จุดเริ่มต้นของพลัง) พลังคือจุดกำเนิด มันแบ่งออกเป็นหยินและหยาง และยังแบ่งออกเป็นสสารห้าชนิด โลหะ ไม้ น้ำ ไฟ ดิน (ห้าธาตุ) ความรุ่งเรืองและความตกต่ำของสสารเหล่านี้ล้วนมีกฎเกณฑ์ที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ อีกทั้งมีทั้งหายนะและบุญวาสนา ซึ่งหายนะและบุญวาสนาเหล่านี้ล้วนสามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้

· มังกร (龍 หลง)
“ห้าเคล็ดลับภูมิประเทศ” อันดับแรกของศาสตร์ฮวงจุ้ยก็คือ มังกร ตำแหน่ง เนินเขา สายน้ำ และ ทิศทาง ส่วนกิจกรรมที่สอดคล้องกันก็คือ “การแสวงหามังกร การสำรวจเนินเขา การสังเกตน้ำ การเลือกตำแหน่ง และ การวัดตั้งทิศทาง”
มังกรคืออะไร มังกรก็คือเส้นเลือดของภูเขา ดินคือเนื้อหนังของมังกร หินคือกระดูกของมังกร ต้นไม้ต้นหญ้าคือเส้นขนและเส้นผมของมังกร การแสวงหามังกรก่อนอื่นควรจะแสวงหาภูเขาบรรพบุรุษและภูเขาพ่อแม่ก่อน ที่เรียกว่า ภูเขาบรรพบุรุษก็คือจุดเริ่มต้นของเทือกเขา บริเวณจุดกำเนิดของกลุ่มภูเขา ภูเขาพ่อแม่ก็คือการเข้าไปบริเวณเทือกเขาเป็นอันดับแรก การสำรวจชีพจรพลังก็หมายถึงการสำรวจดูว่าเทือกเขานั้นคดเคี้ยวขึ้นลงเหมือนกันหรือไม่ สันเขาแยกและสันเขาร่วมของเทือกเขามีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปหรือไม่ ถ้ามีก็จะเป็นมงคล มิฉะนั้นแล้วก็จะเป็นอัปมงคล การแสวงหามังกรจะต้องแบ่งออกเป็นเก้าสภาวการณ์ ซึ่งมีดังนี้
หุยหลง (迴龍) ชูหยางหลง (出洋龍)
เจี้ยงหลง (降龍) เซิงหลง (生龍)
จวี้หลง (巨龍) เจินหลง (針龍)
เถิงหลง (騰龍) หลิ่งฉวินหลง (領群龍) และ
หลายหลง (來龍)
ให้อาศัยสภาวการณ์ภูเขาที่คดเคี้ยวมาแต่ไกลเป็นมงคล

· ชีพจรมังกร (龍脈 หลงม่าย)
ม่าย (脈) ความหมายเดิมคือ เส้นเลือด คนสมัยก่อนจะคุ้นเคยเรียกการเชื่อมโยงระหว่างภูเขาและแม่น้ำว่าม่าย คนรุ่นหลังมักจะเปรียบเทียบภูมิประเทศว่ามีระเบียบแบบแผนและมีการเชื่อมโยง
ความสูงต่ำขึ้นลงและความคดเคี้ยวของภูเขาและแม่น้ำเหมือนดั่ง มังกรซุ่ม (龍伏 หลงฝู่) มังกรเต้นรำ (龍舞 หลงอู่) มังกรทะยาน (龍騰 หลงเถิง) มังกรบิน (龍飛 หลงเฟย) ดังนั้นอาจารย์ฮวงจุ้ยจะเรียกภูเขาและแม่น้ำว่าหลงม่าย ประเทศจีนมีพื้นที่สองในสามส่วนที่เป็นภูเขาและแม่น้ำ เช่นนี้ไม่ว่าที่ไหนๆ ก็ล้วนมีหลงม่าย

· น้ำ (水 สุ่ย)
น้ำ อีกชื่อหนึ่งคือ “ไว่ชี่ (外氣 พลังจากภายนอก)” ฮวงจุ้ยเชื่อว่าน้ำเป็นแม่ของพลัง พลังอาศัยน้ำในการขนย้ายจึงดำเนินการ แล้วน้ำถูกสกัดกั้นจึงหยุดนิ่ง การแสวงหามังกรเพื่อเลือกตำแหน่งต้องทำการวินิจฉัยและพิสูจน์ตามขนาด ทิศทาง และ รูปทรง ของกระแสน้ำ
น้ำคืออะไร ลำน้ำที่ไหลติดตามเทือกเขามาก็คือน้ำ สิ่งสำคัญอันดับแรกของการสำรวจน้ำคือการสำรวจปากทางน้ำ ตัวปากทางน้ำเองมีจุดที่กระแสน้ำไหลเข้าและจุดที่กระแสน้ำไหลออก จุดที่กระแสน้ำไหลเข้าต้องเปิดกว้าง จุดที่กระแสน้ำไหลออกต้องปิดมิด ต่อมาก็คือการสำรวจรูปทรงน้ำอย่างเป็นรูปธรรม สภาวการณ์น้ำต้องชุมนุมและผ่อนคลายจึงเป็นมงคล น้ำที่ปะทะเชี่ยวกรากเป็นอัปมงคล

ติดตามต่อสัปดาห์หน้านะครับ…สวัสดีครับ
ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับฮวงจุ้ยผ่านทางเฟซบุคได้ที่ เพจฮวงจุ้ยอาจารย์หม่า
https://www.facebook.com/pages/ฮวงจุ้ยอาจารย์หม่า
วันที่ 26/04/2557 เวลา 0:22 น.

เข้าใจฮวงจุ้ยแก้ไขดวงชะตาที่ดี ตอนที่ 19 ศัพท์เทคนิคที่มักใช้ประจำในทางฮวงจุ้ย

เข้าใจฮวงจุ้ยแก้ไขดวงชะตาที่ดี ตอนที่ 19

ศัพท์เทคนิคที่มักใช้ประจำในทางฮวงจุ้ย

ศัพท์เทคนิคที่มักใช้ประจำ
· ตำแหน่ง (穴 เซวี่ยะ) และการเลือกตำแหน่ง (點穴 เตี่ยนเซวี่ยะ)
ตำแหน่ง (穴 เซวี่ยะ) แบ่งออกเป็นตำแหน่งหยิน (陰穴 อินเซวี่ยะ) ตำแหน่งหยาง (陽穴 หยางเซวี่ยะ) ตำแหน่งหยางหมายถึงพื้นที่ตั้งของที่อยู่อาศัย ตำแหน่งหยินก็หมายถึงสุสานของคนตาย
เซวี่ยะ (穴) ความหมายเดิมคือ ห้องดิน เซวี่ยะ (穴) มีทั้ง รู รัง ถ้ำ หรือบริเวณจุดที่ฝังเข็มรมยา เป็นต้น อาจารย์ฮวงจุ้ยใช้ตำแหน่งเป็นสุสานของคนตายหรือที่อยู่อาศัยของคนเป็น หรือก็คือ ตำแหน่งหมายถึงพื้นที่ตั้งที่เป็นรูปธรรม เป็นจุดๆ หนึ่งในบริเวณพื้นที่ชุมชนที่มีการกำหนดเลือกขอบเขตที่ค่อนข้างใหญ่ การเลือกตำแหน่ง (點穴 เตี่ยนเซวี่ยะ) ก็หมายถึงการชี้เฉพาะเจาะจงหรือกำหนดพื้นที่ตั้งสิ่งก่อสร้างที่แน่ชัด
อาจารย์ฮวงจุ้ยเชื่อว่าตำแหน่งเป็นสิ่งที่ฟ้าสร้าง ก็คือมีมังกรดำรงชีวิตอยู่จึงจะเป็นตำแหน่งที่มีชีวิต ตำแหน่งอย่างไรจึงจะดี ก่อนอื่นต้องการมังกรที่แท้จริง มองดูพื้นที่แล้วจึงเลือกตำแหน่ง เมื่อเลือกตำแหน่งแล้วก็สำรวจมังกร มังกรที่แท้จริงจำเป็นจะต้องประสานตำแหน่ง ต่อมาจึงค่อยดูมังกรเขียว เสือขาว หมิงถัง และปากทางน้ำ จะต้องมีลักษณะที่หรูหราและน่าเกรงขาม ภูเขาและสายน้ำที่ด้านหน้าคือแท้จริง ภูเขาและสายน้ำที่ด้านหลังคือปลอม ป้องลม รับน้ำ กักพลัง คือมีชีวิต ลมพัด น้ำสั่นไหว พลังกระจาย คือตาย
อาจารย์ฮวงจุ้ยเชื่อว่าการเลือกตำแหน่งเป็นเรื่องที่ยากมากอย่างหนึ่ง ใช้เวลาสามปีในการแสวงหามังกร แต่ต้องใช้เวลาสิบปีในการเลือกตำแหน่ง การเลือกตำแหน่งเป็นหัวใจสำคัญที่สุดในศาสตร์การดูพื้นที่ชัยภูมิ หลังจากที่ดูชีพจรมังกรและหมิงถังแล้วก็ต้องทำการเลือกตำแหน่ง การเลือกตำแหน่งผิดทุกอย่างก็จะเสียแรงเปล่า ซ้ายก็ไม่ได้ ขวาก็ไม่ได้ ผิดเพียงแค่นิดเดียวทุกอย่างก็จะไม่เป็นผล วาสนาก็จะกลายเป็นหายนะได้
· เนินเขา (砂 ซา)
เนินเขา คือ ภูเขาที่อยู่รอบทั้งสี่ด้านของตำแหน่ง ความคิดฮวงจุ้ยเชื่อว่า ภูเขาหนาคนจะอุดมสมบูรณ์ ภูเขาผอมชะลูดคนจะหิวโซ ภูเขาใสสะอาดคนจะมีเกียรติ ภูเขาชำรุดเสียหายคนจะโศกเศร้า ภูเขารวมกันคนจะชุมนุมกัน ภูเขาไปคนก็จะจากไป ภูเขายืดขยายยาวคนจะมีความกล้าหาญ ภูเขาหดเล็กคนจะต่ำต้อย ภูเขาสว่างคนจะบรรลุถึงผลสำเร็จ ภูเขามืดคนจะหลงใหลงมงาย รูปทรงของภูเขาเปลี่ยนแปลงไม่แน่นอน ด้านซ้ายมองดูแล้วเป็นทรงเหลี่ยม ด้านขวามองดูแล้วเป็นทรงกลม มองจากทางด้านบนแล้วตรง มองจากทางด้านล่างแล้วเอียง มองจากทางด้านตรงแล้วน่าเกลียด มองจากทางด้านข้างแล้วสวยงาม
จะทำให้รูปทรงภูเขาเปลี่ยนแปลง หัวใจสำคัญอยู่ที่การเลือกตำแหน่ง การเลือกตำแหน่งได้ดีก็จะสามารถทำให้ภูเขาที่อยู่ไกลกลายเป็นใกล้ ภูเขาสูงกลายเป็นเตี้ย ภูเขาน่าเกลียดกลายเป็นสวยงาม ภูเขาที่เลวร้ายกลายเป็นยอดเยี่ยม ภูเขาไปกลายเป็นกลับมา ภูเขาลาดเอียงกลายเป็นตั้งตรง
ที่ด้านข้างสองฝั่งทางด้านหน้าตำแหน่งคือเนินเขา ซื่อซา (侍砂) สามารถต้านทานลมที่เลวร้าย ตั้งแต่ส่วนที่มังกรโอบกอดคือเนินเขา เว่ยซา (衛砂) ด้านนอกสามารถต้านทานลม ด้านในสามารถเพิ่มเติมพลัง โอบกอดพันรอบด้านหน้าตำแหน่งคือเนินเขา อิ๋งซา (迎砂) ด้านหน้าที่ตั้งตระหง่านคือเนินเขา ฉาวซา (朝砂) น้ำมาทางซ้าย เนินเขาเลี้ยวขวา น้ำมาทางขวา เนินเขาเลี้ยวซ้าย
ฮวงจุ้ยยังพิถีพิถันการจัดวางโดยรวม บริเวณโดยรอบของตำแหน่งล้วนมีเนินเขาแห่งความร่ำรวยและมีเกียรติ ถือเป็นมงคล การจัดเรียงของเนินเขาต้องเป็นชั้นๆ ซ้อนกัน มีลำดับหน้า-หลัง ซึ่งจะเหมือนมีความหมายว่ามีไมตรี ที่ปลายเนินเขามีกระแสน้ำไหลซู่ซ่าโอบล้อมไหลอย่างเอื่อยๆ ก็คือเนินเขาที่ดี
· ทิศทาง (向 เซี่ยง)
หมายถึงทิศทางของที่อยู่อาศัยหรือสุสาน เมื่อรวมกับมังกร เนินเขา ตำแหน่ง และน้ำ จะถือเป็นห้าข้อสำคัญใหญ่ของศาสตร์การดูพื้นที่ชัยภูมิ นักวิชาการเชื่อว่า ทิศทางต้องอาศัยด้านหลังเป็นภูเขา ด้านหน้าเป็นสายน้ำ อิงทิศเหนือ ประจัญทิศใต้ หลบเลี่ยงความเป็นอัปมงคล รับความเป็นมงคล ถือเป็นดี การกำหนดทิศทางก็ต้องสำรวจดูลักษณะพื้นที่ และก็ต้องใช้เข็มทิศทำการวัด แล้วจึงค่อยอาศัยทิศทางของลักษณะพื้นที่มาเป็นเงื่อนไขในการตัดสินใจ
· สัญลักษณ์ดวงชะตา (命卦 มิ่งกว้า)
กลุ่มสำนักปาจ๋ายได้นำดวงชะตาคนเราแบ่งออกเป็นสี่ตะวันออกและสี่ตะวันตก ซึ่งเรียกว่า “สัญลักษณ์ดวงชะตา (命卦 มิ่งกว้า)”
คนที่มีสัญลักษณ์ดวงชะตาเป็น ข่าน (坎) ธาตุน้ำ เจิ้น (震) ธาตุไม้ ซวิ่น (巽) ธาตุไม้ และ หลี (離) ธาตุไฟ ถือเป็นคนดวงชะตาตะวันออก เหมาะที่จะประกอบเข้ากันกับทิศตะวันออก ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ทิศใต้ และทิศเหนือ สี่ทิศตะวันออกเหล่านี้
ส่วนคนที่มีสัญลักษณ์ดวงชะตาเป็น คุน (坤) ธาตุดิน เกิ้น (艮) ธาตุดิน เฉียน (乾) ธาตุโลหะ และ ตุ้ย (兌) ธาตุโลหะ ถือเป็นคนดวงชะตาตะวันตก เหมาะที่จะประกอบเข้ากันกับทิศตะวันตก ทิศตะวันตกเฉียงใต้ ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ และ ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ สี่ทิศตะวันตกเหล่านี้
· สิบพื้นที่อัปมงคล
มีนักวิชาการฮวงจุ้ยนำเอาการเลือกฮวงจุ้ยสิบประเภทที่ไม่เป็นผลดีต่อหยินจ๋ายและหยางจ๋ายแบ่งออกเป็นสิบพื้นที่อัปมงคล ดังนี้
ขัดต่อเทียนป้าย (天敗) ลูกหลานจะหนีหาย
ขัดต่อเทียนซา (天殺) ลูกหลานจะลำบาก เป็นทุกข์
ขัดต่อเทียนเฉวี๋ยง (天窮) ลูกหลานจะโดดเดี่ยว
ขัดต่อเทียนชง (天沖) ลูกหลานจะเกียจคร้าน เอ้อระเหย
ขัดต่อเทียนชิง (天傾) จะพ่ายแพ้สูญสิ้น
ขัดต่อเทียนซือ (天濕) โรคภัยไข้เจ็บจะรุมเร้า
ขัดต่อเทียนยวี่ (天獄) ลูกหลานจะดื้อรั้น โง่เขลา
ขัดต่อเทียนโก่ว (天狗) ลูกหลานจะเนรคุณ
ขัดต่อเทียนหมอ (天魔) ลูกหลานจะยากจนข้นแค้น
ขัดต่อเทียนคู (天枯) จะสูญสิ้นลูกหลาน
· พลังพิฆาต (煞 ซา)
ในวิชาฮวงจุ้ยเชื่อว่าสิ่งที่ไม่ดีเรียกว่า พลังพิฆาต (煞 ซา) พลังพิฆาตที่มักพบในชีวิตประจำวันมี
ฝ่านกวงซา (反光煞 พลังพิฆาตแสงสะท้อน)-เนื่องจากการสะท้อนแสงของพระอาทิตย์ ผิวน้ำ และ กระจกจึงถูก เรียกว่า ฝ่านกวงซา (反光煞 พลังพิฆาตแสงสะท้อน)
กอเจี่ยวซา (割腳煞 พลังพิฆาตเกี่ยวขา)-จะเห็นน้อยมากในเมือง เพราะเป็นบ้านที่อยู่ติดกับน้ำ หรือเป็นอาคารใหญ่ที่อยู่ใกล้ผิวน้ำ
เหลียนเตาซา (鐮刀煞 พลังพิฆาตรูปเคียว)-คือสะพานที่โค้งหรือถนนที่มีรูปทรงโค้ง
กูเฟิงซา (孤峰煞 พลังพิฆาตยอดเขาโดดเดี่ยว)-หมายถึงอาคารที่ตั้งตระหง่านอยู่เพียงอาคารเดียว หน้า หลัง ซ้าย ขวา ไม่มีภูเขาหรืออาคารให้พึ่งพิง
เชียงซา (槍煞 พลังพิฆาตรูปปืน)-นี่เป็นพลังที่ไร้ตัวตนชนิดหนึ่ง ที่เรียกว่า “ถนนตรงสายหนึ่ง ปืนกระบอกหนึ่ง” ก็หมายถึง ประตูบ้านตรงกับทางเดินตรงยาวเส้นหนึ่ง ก็คือการขัดต่อเชียงซา
ป๋ายหู่ซา (白虎煞 พลังพิฆาตเสือขาว)-หมายถึงทางด้านขวาของที่อยู่อาศัยมีสภาวการณ์ของการก่อสร้างหรือการขยับหน้าดิน
เทียนจ่านซา (天斬煞 พลังพิฆาตผ่ากลางฟ้า)-อาคารสองหลังอยู่ใกล้กันมากเกินไปจนทำให้ระหว่างอาคารทั้งสองหลังนี้ก่อเกิดเป็นช่องโหว่ที่แคบเล็ก มองไกลๆ ก็จะเหมือนกับอาคารถูกขวานฟันลงมาจากบนฟ้า ผ่าแยกจากหนึ่งเป็นสอง
ชวานซินซา (穿心煞 พลังพิฆาตทะลุกลางใจ)-อาคารที่ถูกสร้างรถไฟใต้ดินหรืออุโมงค์ใต้ดินทะลุผ่านใต้พื้นอาคารไป ก็คือการขัดต่อชวานซินซา
เหลียนเจินซา (廉貞煞)-โดยทั่วไปแล้วฮวงจุ้ยจะให้ความสำคัญกับด้านหลังมีหลักให้พึ่งพิงอาศัย แต่ถ้าหากภูเขาที่ให้พึ่งพิงอาศัยนั้นไม่ใช่ภูเขาที่มีชื่อ แต่เป็นภูเขาหินขรุขระมีเหลี่ยมแหลม ไม่มีแม้แต่ต้นไม้ใบหญ้าขึ้น ในวิชาฮวงจุ้ยก็จะเรียกว่าเป็นเหลียนเจินซา
เทียนเฉียวซา (天橋煞 พลังพิฆาตสะพาน)-สะพานหรือสะพานลอยจากที่สูงและลงมามักจะมีสภาวการณ์ไปของความลาดเอียงโค้งงอ สะพานเป็นน้ำปลอม ความลาดเอียงไปก็คือน้ำไป
คายโข่วซา (開口煞 พลังพิฆาตเปิดปาก)-เมื่อคุณเปิดประตูบ้านของตัวเองแล้วมองเห็นประตูลิฟท์เปิดปิด ก็จะเหมือนกับปากของเสือนั่นเอง
ชงซา (沖煞 พลังพิฆาตปะทะ)-พูดจากมุมมองทางฮวงจุ้ย ที่อยู่อาศัยที่อยู่ต่ำกว่าชั้นห้าลงมาจะค่อนข้างขัดต่อชงซาได้ง่าย เพราะว่าที่อยู่อาศัยโดยมากแล้วจะถูกเสาไฟฟ้าหรือต้นไม้บดบัง
· สภาวการณ์ (形勢 สิงซื่อ)
สภาวการณ์ (形勢 สิงซื่อ) ในศาสตร์การดูพื้นที่ชัยภูมิหมายถึงลักษณะภูมิประเทศ (地形 ตี้สิง) และ ภูมิประเทศที่หมายถึงลักษณะความสูงต่ำของพื้นที่ (地勢 ตี้ซื่อ) ซึ่ง สิง (形 รูปลักษณ์ รูปร่าง) กับ ซื่อ (勢 อิทธิพล แนวโน้ม) มีความแตกต่างกัน อาจารย์ฮวงจุ้ยเชื่อว่า พันเมตรคือ ซื่อ (勢) ร้อยเมตรคือสิง (形) รูปลักษณ์เล็กกว่าอิทธิพลแนวโน้ม อิทธิพลแนวโน้มใหญ่กว่ารูปลักษณ์ อิทธิพลแนวโน้มคือทิวทัศน์ที่อยู่ไกล รูปลักษณ์คือการมองในระยะใกล้ รูปลักษณ์คือเนื้อที่ของอิทธิพลแนวโน้ม อิทธิพลแนวโน้มคือความสูงส่งของรูปลักษณ์ มีอิทธิพลแนวโน้มหลังจากนั้นจึงค่อยมีรูปลักษณ์ มีรูปลักษณ์แล้วหลังจากนั้นจึงค่อยรู้จักอิทธิพลแนวโน้ม อิทธิพลแนวโน้มตั้งอยู่ก่อนรูปลักษณ์ รูปลักษณ์ก่อตัวขึ้นหลังจากอิทธิพลแนวโน้ม รูปลักษณ์อยู่ด้านใน อิทธิพลแนวโน้มอยู่ด้านนอก รูปลักษณ์คือภูเขาลูกเดียว อิทธิพลแนวโน้มคือกลุ่มเขาที่ขึ้นลง รู้จักอิทธิพลแนวโน้มนั้นยาก มองดูรูปลักษณ์นั้นง่าย
· ยุคใหญ่ (大運 ต้ายวิ่น) และ ยุคเล็ก (小運 เสี่ยวยวิ่น)
เจี่ยจื่อ (甲/子) หกสิบปี เป็นหนึ่งหยวน หนึ่งหยวน หกสิบปี เป็นยุคใหญ่ ในหนึ่งหยวนทุกๆ ยี่สิบปีเป็นยุคเล็ก นักวิชาการฮวงจุ้ยนำมาใช้กำหนดความรุ่งเรืองความเสื่อมถอยของพลังพื้นดิน (地氣 ตี้ชี่)
· ไท่สุ่ย (太歲)
ไท่สุ่ย (太歲) หมายถึงดาวไท่สุ่ย พูดให้ถูกต้องจริงๆ แล้วก็คือ ดาวจูปิเตอร์ในกลุ่มดาวทางช้างเผือก ดาวจูปิเตอร์เป็นดาวเคราะห์ที่ใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะจักรวาล ฉะนั้นดาวดวงนี้จึงเป็นดาวอันดับแรกของกลุ่มดาวที่มีต่อแรงโน้มถ่วงของโลก
ดาวจูปิเตอร์เป็นดาวเคราะห์ดวงหนึ่งที่มีความสะดุดตาต่อผู้คนมากที่สุดในระบบสุริยะจักรวาล ความสว่างของมันเป็นรองเพียงแค่ดาววีนัสเท่านั้น สมัยจีนโบราณเรียกมันว่า “ซุ่ยซิง (歲星)” ซึ่งนำมันมาใช้จดบันทึกปี เนื่องจากได้รู้ว่ารอบระยะเวลาในการโคจรของมันใกล้กับยี่สิบปี และปีสิบสองนักษัตรก็เปลี่ยนแปลงไปตามการโคจรของไท่สุ่ย ในทุกๆ ปีที่ดาวจูปิเตอร์มาถึงทิศทางใดทิศทางหนึ่งบนโลก ก็จะเพิ่มเติมแรงโน้มถ่วงของโลกในทิศทางนั้นให้แข็งแกร่ง และไท่สุ่ยจะเปลี่ยนแปลงไปตามแต่ละปี
· หมิงถัง (明堂)
ในฮวงจุ้ยเรียกด้านหน้าประตูบ้านของหยางจ๋ายหรือขอบเขตด้านหน้าของ หยินจ๋ายว่าหมิงถัง (明堂) ซึ่งเป็นบริเวณที่พลังพื้นดิน (地氣 ตี้ชี่) มาชุมนุมรวมตัวกัน หมิงถังต้องสะอาด กว้างขวาง ป้องลม กักพลัง เป็นดี การดูพื้นที่ชัยภูมิต้องเลือกหมิงถังที่ดี หลังจากนั้นจึงค่อยเลือกตำแหน่ง เพื่อบรรลุถึงเป้าหมายในการรับความเป็นมงคลหลีกเลี่ยงความเป็นอัปมงคล
· การเลือกความเป็นมงคล (擇吉 เจ๋อจี๊)
การเลือกความเป็นมงคลคือเทคนิคอย่างหนึ่ง สิ่งที่ทำการเลือกนั้นก็คือเวลาและพื้นที่ ส่วนความคุ้มค่าก็คือการได้รับความราบรื่นและเป็นสิริมงคล จุดประสงค์อื่นคือการรับความเป็นมงคลและหลบเลี่ยงความเป็นอัปมงคล เนื้อหาในการเลือกนั้นก็กว้างขวางมาก ที่สำคัญก็มี การเลือกวันที่เป็นมงคล การขยับหน้าดิน การซ่อมแซม การเดินทาง การแต่งงาน การเปิดกิจการ เป็นต้น
การเลือกความเป็นมงคลคือการสะท้อนสภาพการดำรงชีวิตของมนุษย์ธรรมชาติขนาดใหญ่ได้เสนอเงื่อนไขที่เป็นผลดีมากมายให้แก่มนุษย์ และก็ยังได้เสนอปัจจัยที่ไม่เป็นผลดีมากมายให้แก่มนุษย์ด้วย มนุษย์จะต้องใช้เงื่อนไขของธรรมชาติขนาดใหญ่ให้อย่างเต็มที่ พิชิตควบคุมปัจจัยที่ไม่เป็นผลดีที่ธรรมชาติขนาดใหญ่เป็นผู้สร้างขึ้น ก็คือต้องหลีกเลี่ยงและควบคุมปัจจัยที่ไม่เป็นผลดีเหล่านี้ การเลือกความเป็นมงคลก็คืออาศัยภูมิฟ้าและภูมิดินเป็นพื้นฐาน อาศัยโป๊ยก่วย เก้าดาว 28 กลุ่มดาว ภูมิฟ้า ภูมิดิน ห้าธาตุ ปี เดือน วัน เวลา เป็นต้น ซึ่งเป็นระบบที่ใช้ในการคาดการณ์ความเป็นมงคลและความเป็นอัปมงคล เพื่อให้คนเราดำเนินการทำเรื่องราวต่างๆ ในเวลาที่เป็นผลดี เพื่อบรรลุถึงบทบาทของความปลอดภัย ความราบรื่น และ การคลี่คลายเป็นอัปมงคลให้เป็นมงคล เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงสิ่งที่มีอยู่จริงของการแสวงหาการรวมเป็นหนึ่งเดียวกันของ ฟ้า ดิน มนุษย์ ของคนในสมัยโบราณ

ติดตามต่อสัปดาห์หน้านะครับ…สวัสดีครับ
ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับฮวงจุ้ยผ่านทางเฟซบุคได้ที่ เพจฮวงจุ้ยอาจารย์หม่า
https://www.facebook.com/pages/ฮวงจุ้ยอาจารย์หม่า
วันที่ 19/04/2557 เวลา 0:13 น

เข้าใจฮวงจุ้ยแก้ไขดวงชะตาที่ดี ตอนที่ 18 ศัพท์เทคนิคที่มักใช้ประจำในทางฮวงจุ้ย

เข้าใจฮวงจุ้ยแก้ไขดวงชะตาที่ดี ตอนที่ 18

ศัพท์เทคนิคที่มักใช้ประจำในทางฮวงจุ้ย

ศัพท์เทคนิคที่มักใช้ประจำ
· ความหมายแฝงของ 24 ภูเขา
การศึกษาฮวงจุ้ยจำเป็นจะต้องเข้าใจในเรื่องทิศทาง ตำแหน่งพระราชวังของทั้งแปดสัญลักษณ์ใช้ชื่อของทั้งแปดสัญลักษณ์เป็นตัวแทนของทิศเหนือ ใต้ ออก ตก เป็นต้น
พระราชวังเจิ้น ( 震 ) คือ ทิศตะวันออก
พระราชวังซวิ่น ( 巽 ) คือ ทิศตะวันออกเฉียงใต้
พระราชวังหลี ( 離 ) คือ ทิศใต้
พระราชวังคุน ( 坤 ) คือ ทิศตะวันตกเฉียงใต้
พระราชวังตุ้ย ( 兌 ) คือ ทิศตะวันตก
พระราชวังเฉียน ( 乾 ) คือ ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
พระราชวังข่าน ( 坎 ) คือ ทิศเหนือ
พระราชวังเกิ้น ( 艮 ) คือ ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
ถ้าหากมีคนมาดูฮวงจุ้ยให้คุณแล้วพูดว่า “พระราชวังเจิ้น (震) ในปีนี้มีดาวห้าผีโคจรมายังตำแหน่ง แล้วประตูของบ้านคุณเป็นประตูเจิ้น (震) ปีนี้ครอบครัวจะไม่มีความปลอดภัย” ประตูเจิ้นในที่นี่ก็คือประตูในทิศตะวันออกนั่นเอง
นอกจากทิศทางทั้งแปดพระราชวังแล้ว อาจารย์ฮวงจุ้ยยังจะต้องใช้ทิศทางทั้ง 24 ในการวินิจฉัยความเป็นมงคลและความเป็นอัปมงคล ในแต่ละทิศทางจะมี 15 องศา ในทางฮวงจุ้ยเรียกว่า 24 ภูเขา พวกมันก็คือ เจี่ย (甲) เหม่า (卯) อี่ (乙) เฉริน (辰) ซวิ่น (巽) ซื่อ (巳) ปิ่ง (丙) อู่ (午) ติง (丁) เว่ย (未) คุน (坤) เซิน (申) เกิง (庚) โหย่ว (酉) ซิน (辛) ซวี (戌) เฉียน (乾) ไห้ (亥) เหยิน (壬) จื่อ (子) กุ่ย (癸) โฉ่ว (丑) เกิ้น (艮) อิ๋น (寅)
เข็มทิศหลัวผาน ใช้ “เหม่า (卯)” เป็นตัวแทนของทิศตะวันออก
ใช้ “อู่” (午) เป็นตัวแทนของทิศใต้
ใช้ “โหย่ว” (酉) เป็นตัวแทนของทิศตะวันตก
ใช้ “จื่อ” (子) เป็นตัวแทนของทิศเหนือ
ใช้ “ซวิ่น” (巽) เป็นตัวแทนของทิศตะวันออกเฉียงใต้
ใช้ “คุน” (坤) เป็นตัวแทนของทิศตะวันตกเฉียงใต้
ใช้ “เฉียน” (乾) เป็นตัวแทนของทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
ใช้ “เกิ้น” (艮) เป็นตัวแทนของทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
เหล่านี้คือภูเขาหลักของแต่ละสัญลักษณ์ แล้วที่ด้านข้างทั้งสองของมันก็จะเป็นทิศที่ค่อนไปอีกทิศทางหนึ่ง เช่น “เฉริน (辰) ซวิ่น (巽) ซื่อ (巳)” ถือเป็นทิศตะวันออกเฉียงใต้ “ซวิ่น (巽)” เป็นทิศตะวันออกเฉียงใต้ตรง ส่วน “เฉริน (辰)” เป็นทิศตะวันออกเฉียงใต้ที่ค่อนไปทางทิศตะวันออก ส่วน “ซื่อ (巳)” เป็นทิศตะวันออกเฉียงใต้ที่ค่อนไปทางทิศใต้ 24 ภูเขาที่เหลือก็เป็นเช่นนี้เช่นกัน

· เทียนซินสือต้าว (天心十道)
เทียนซิน (天心) หมายถึง ใจกลางหมิงถังของหยินจ๋ายและหยางจ๋าย เทียนซินสือต้าว (天心十道) เป็นการยืนยันทิศทางของฮวงจุ้ย อาศัยภูเขาทั้งสี่ทิศทางทั้งหน้า หลัง ซ้าย ขวา ที่มีจุดตัดพอดีกันเป็นพื้นฐาน แล้ววาดเครื่องหมาย 十 ออกมาตรงใจกลางหมิงถัง ซึ่งก็คือ สือต้าว (十道) อย่างง่ายๆ
ที่เรียกว่าสี่ทิศทางก็หมายถึงภูเขาทางด้านหน้า หลัง ซ้าย ขวา ของใจกลางหมิงถัง และต้องอาศัยความพอดีกันจึงจะดี ถ้าหากทั้งสี่ทิศทางได้สัดส่วนที่ครบถ้วนสมบูรณ์และประสานไปทางตำแหน่ง ฮวงจุ้ยเชื่อว่านี่เป็นปรากฏการณ์แห่งความมีคุณค่า
ในหยางจ๋ายให้วาดเครื่องหมาย ไว้ตรงกลางบ่อสวรรค์ (天井 เทียนจิ่ง) สี่ทิศทางก็คือกำแพงทั้งสี่ด้าน โดยมากแล้วจะวาดเครื่องหมาย  ไว้ที่ระหว่างด้านในของประตูใหญ่ของบ้าน ด้านนอกของประตูบ้านด้านใน หรือ ตรงกลางจุดสูงสุดของลานบ้าน หลังจากนั้นใช้เข็มทิศวัดที่จุด 十 เพื่อกำหนดทิศทาง 24 ภูเขา กำหนดสี่บ้านตะวันออกกับ สี่บ้านตะวันตก และ มองดูความสัมพันธ์ที่ร่วมกันของประตูบ้าน ห้องนอน เตา เพื่อกำหนดความเป็นมงคลและความเป็นอัปมงคล

· พลัง (氣 ชี่)
พลัง ในศาสตร์ฮวงจุ้ยถือเป็นเรื่องทั่วไปมาก และเป็นความคิดที่มีความสำคัญมาก มี พลังชีวิต (生氣 เซิงชี่) พลังตาย (死氣 สื่อชี่) พลังหยาง (陽氣 หยางชี่) พลังหยิน (陰氣 อินชี่) พลังดิน (土氣 ถู่ชี่) พลังพื้นดิน (地氣 ตี้ชี่) พลังทวีคูณ (乘氣 เฉิงชี่) การชุมนุมพลัง (聚氣 จวี้ชี่) การรับพลัง (納氣 น่าชี่) ชีพจรพลัง (氣脈 ชี่ม่าย) แม่ของพลัง (氣母 ชี่หมู่) เป็นต้น
พลังเป็นแหล่งกำเนิดของสรรพสิ่ง พลังไม่มีการเปลี่ยนแปลงไม่มีที่สิ้นสุด พลังตัดสินหายนะและบุญวาสนาของคนเรา “หลี่ชี่ (理氣)” เป็นสิ่งที่ซับซ้อนมาก ต้องประสานกันกับหยินหยางห้าธาตุ และในสถานที่จริงนั้นต้องได้รับปรากฏการณ์ความรุ่งเรืองด้วย จึงจะสามารถได้รับ “พลังชีวิต (生氣 เซิงชี่)” เมื่อมีพลังชีวิตแล้วก็จะสามารถเกิดความมั่งคั่งร่ำรวย ฉะนั้นจริงๆ แล้วศาสตร์ฮวงจุ้ยก็คือ “ศาสตร์การมองดูพลัง”
ศาสตร์ฮวงจุ้ยอาศัยพลังเป็นจุดกำเนิดสรรพสิ่ง เชื่อว่าโลกเริ่มต้นจากไม่มี (ไม่เคยเห็นพลัง) ไปจนถึงมี (จุดเริ่มต้นของพลัง) พลังคือจุดกำเนิด มันแบ่งออกเป็นหยินและหยาง และยังแบ่งออกเป็นสสารห้าชนิด โลหะ ไม้ น้ำ ไฟ ดิน (ห้าธาตุ) ความรุ่งเรืองและความตกต่ำของสสารเหล่านี้ล้วนมีกฎเกณฑ์ที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ อีกทั้งมีทั้งหายนะและบุญวาสนา ซึ่งหายนะและบุญวาสนาเหล่านี้ล้วนสามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้

· มังกร (龍 หลง)
“ห้าเคล็ดลับภูมิประเทศ” อันดับแรกของศาสตร์ฮวงจุ้ยก็คือ มังกร ตำแหน่ง เนินเขา สายน้ำ และ ทิศทาง ส่วนกิจกรรมที่สอดคล้องกันก็คือ “การแสวงหามังกร การสำรวจเนินเขา การสังเกตน้ำ การเลือกตำแหน่ง และการวัดตั้งทิศทาง”
มังกรคืออะไร มังกรก็คือเส้นเลือดของภูเขา ดินคือเนื้อหนังของมังกร หินคือกระดูกของมังกร ต้นไม้ต้นหญ้าคือเส้นขนและเส้นผมของมังกร การแสวงหามังกรก่อนอื่นควรจะแสวงหาภูเขาบรรพบุรุษและภูเขาพ่อแม่ก่อน ที่เรียกว่าภูเขาบรรพบุรุษก็คือจุดเริ่มต้นของเทือกเขา บริเวณจุดกำเนิดของกลุ่มภูเขา ภูเขาพ่อแม่ก็คือการเข้าไปบริเวณเทือกเขาเป็นอันดับแรก การสำรวจชีพจรพลังก็หมายถึงการสำรวจดูว่าเทือกเขานั้นคดเคี้ยวขึ้นลงเหมือนกันหรือไม่ สันเขาแยกและสันเขาร่วมของเทือกเขามีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปหรือไม่ ถ้ามีก็จะเป็นมงคล มิฉะนั้นแล้วก็จะเป็นอัปมงคล การแสวงหามังกรจะต้องแบ่งออกเป็นเก้าสภาวการณ์ ซึ่งมีดังนี้
หุยหลง (迴龍) ชูหยางหลง (出洋龍)
เจี้ยงหลง (降龍) เซิงหลง (生龍)
จวี้หลง (巨龍) เจินหลง (針龍)
เถิงหลง (騰龍) หลิ่งฉวินหลง (領群龍) และ
หลายหลง (來龍)
ให้อาศัยสภาวการณ์ภูเขาที่คดเคี้ยวมาแต่ไกลเป็นมงคล

· ชีพจรมังกร (龍脈 หลงม่าย)
ม่าย (脈) ความหมายเดิมคือ เส้นเลือด คนสมัยก่อนจะคุ้นเคยเรียกการเชื่อมโยงระหว่างภูเขาและแม่น้ำว่าม่าย คนรุ่นหลังมักจะเปรียบเทียบภูมิประเทศว่ามีระเบียบแบบแผนและมีการเชื่อมโยง
ความสูงต่ำขึ้นลงและความคดเคี้ยวของภูเขาและแม่น้ำเหมือนดั่ง มังกรซุ่ม (龍伏 หลงฝู่) มังกรเต้นรำ (龍舞 หลงอู่) มังกรทะยาน (龍騰 หลงเถิง) มังกรบิน (龍飛 หลงเฟย) ดังนั้นอาจารย์ฮวงจุ้ยจะเรียกภูเขาและแม่น้ำว่าหลงม่าย ประเทศจีนมีพื้นที่สองในสามส่วนที่เป็นภูเขาและแม่น้ำ เช่นนี้ไม่ว่าที่ไหนๆ ก็ล้วนมีหลงม่าย

· น้ำ (水 สุ่ย)
น้ำ อีกชื่อหนึ่งคือ “ไว่ชี่ (外氣 พลังจากภายนอก)” ฮวงจุ้ยเชื่อว่าน้ำเป็นแม่ของพลัง พลังอาศัยน้ำในการขนย้ายจึงดำเนินการ แล้วน้ำถูกสกัดกั้นจึงหยุดนิ่ง การแสวงหามังกรเพื่อเลือกตำแหน่งต้องทำการวินิจฉัยและพิสูจน์ตามขนาด ทิศทาง และ รูปทรง ของกระแสน้ำ
น้ำคืออะไร ลำน้ำที่ไหลติดตามเทือกเขามาก็คือน้ำ สิ่งสำคัญอันดับแรกของการสำรวจน้ำคือการสำรวจปากทางน้ำ ตัวปากทางน้ำเองมีจุดที่กระแสน้ำไหลเข้าและจุดที่กระแสน้ำไหลออก จุดที่กระแสน้ำไหลเข้าต้องเปิดกว้าง จุดที่กระแสน้ำไหลออกต้องปิดมิด ต่อมาก็คือการสำรวจรูปทรงน้ำอย่างเป็นรูปธรรม สภาวการณ์น้ำต้องชุมนุมและผ่อนคลายจึงเป็นมงคล น้ำที่ปะทะเชี่ยวกรากเป็นอัปมงคล

· ปากทางน้ำ (水口 สุ่ยโข่ว)
ปากทางน้ำเป็นเนื้อหาที่สำคัญในการดูพื้นที่ชัยภูมิ ที่เรียกว่าปากทางน้ำก็คือบริเวณที่กระแสน้ำไหลเข้าหรือกระแสน้ำไหลออก บริเวณที่น้ำมาเรียกว่า ประตูสวรรค์ (天門 เทียนเหมิน) ถ้าหากน้ำที่มามองไม่เห็นจุดกำเนิดของน้ำไหลเรียกว่า ประตูสวรรค์เปิด บริเวณน้ำไปเรียกว่าประตูพื้นดิน (地戶 ตี้ฮู่) ถ้ามองไม่เห็นน้ำไปเรียกว่า ประตูพื้นดินปิด ภูเขาที่อยู่ทางฝั่งทั้งสองข้างของบริเวณกระแสน้ำไหลไปเรียกว่า เนินเขาปากทางน้ำ (水口砂 สุ่ยโข่วซา) ปากทางน้ำถ้าหากว่าไม่มีเนินเขาสภาวการณ์ของน้ำก็จะไหลเชี่ยวกรากตรงออกไป
ขอบเขตของปากทางน้ำมีทั้งเล็กมีทั้งใหญ่ จากน้ำไหลเข้าจนถึงน้ำไหลออก บริเวณพื้นที่ทั้งหมดที่กระแสน้ำไหลผ่านก็คือขอบเขตของปากทางน้ำ ขอบเขตของปากทางน้ำเป็นอัตราส่วนของความมั่งคั่งร่ำรวย เนื้อที่ในการบรรจุปากทางน้ำที่ยิ่งกว้างใหญ่ ปริมาตรบรรจุที่จะสามารถรองรับได้ก็จะยิ่งมาก เนื้อที่รวมในการสร้างบุญวาสนาก็จะยิ่งมากด้วย ความคิดของปากทางน้ำนั้นค่อนข้างที่จะถูกต้อง ในปากทางน้ำขนาดใหญ่จะมีปากทางน้ำขนาดเล็ก เนื้อที่ของปากทางน้ำขนาดเล็กหลายๆ แห่งจะก่อตัวเป็นเนื้อที่ปากทางน้ำขนาดใหญ่ ในแต่ละหมู่บ้านก็จะมีปากทางน้ำในหมู่บ้าน ในแต่ละเมืองก็จะมีปากทางน้ำของแต่ละเมือง ในแต่ละมณฑลก็จะมีปากทางน้ำของแต่ละมณฑล

ติดตามต่อสัปดาห์หน้านะครับ…สวัสดีครับ
ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับฮวงจุ้ยผ่านทางเฟซบุ๊คได้ที่ เพจฮวงจุ้ยอาจารย์หม่า
https://www.facebook.com/pages/ฮวงจุ้ยอาจารย์หม่า
วันที่ 12/04/2557 เวลา 0:22 น