Powered By Blogger

วันจันทร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2560

เข้าใจฮวงจุ้ยแก้ไขดวงชะตาที่ดี ตอนที่ 10 ฮวงจุ้ยและการใช้หยินจ๋าย

เข้าใจฮวงจุ้ยแก้ไขดวงชะตาที่ดี ตอนที่ 10

ฮวงจุ้ยและการใช้หยินจ๋าย

· การกำหนดระดับความตื้นลึกของตำแหน่งสุสาน ก็ต้องพิจารณาถึงระดับความลึกของน้ำที่ชุมนุมรวมตัวกัน ตำแหน่งสุสานโดยทั่วไปไม่ควรลึกกว่าบริเวณน้ำที่รวมตัวกัน ดังนั้นจึงต้องพิจารณาถึงจุดนี้ด้วย
· ตำแหน่งสุสานอยู่บริเวณที่สูงด้านบนหรือบริเวณด้านล่างจึงจะสามารถทวีคูณพลังชีวิตได้ ก็ต้องดูตำแหน่งของปากหลุมฝังศพที่เหมาะสมและราบเรียบว่าอยู่ตรงไหน ตำแหน่งสุสานไม่ว่าจะกำหนดอยู่ในบริเวณที่สูงหรือบริเวณที่ต่ำ ล้วนจำเป็นจะต้องทวีคูณพลังชีวิต ทุกๆ ตำแหน่งที่มีพื้นที่พลังชีวิตก็จะต้องมีปากหลุมฝังศพที่เหมาะสมที่มีมาแต่กำเนิดโดยธรรมชาติ หรือก็คือพื้นที่ที่ใส่โลงศพ
· ขณะที่ชีพจรพลังโคจรอยู่บนน้ำ ผิวน้ำจะปรากฏออกมาเป็นตัวหนังสือ จากสาเหตุนี้ทำให้สามารถแยกแยะเส้นชีพจรได้อย่างชัดเจน ขณะที่ชีพจรพลังหยุดอยู่ในน้ำจะปรากฏเป็นน้ำวนที่มีรูปทรง 叉 (ชา) จากสาเหตุนี้สามารถวิเคราะห์แยกแยะตำแหน่งหมิงถังเล็กได้อย่างแม่นยำ ขณะที่ชีพจรพลังกำลังโคจรจะก่อเกิดเป็นรูปแบบตัวอักษรอยู่บนผิวน้ำ ไม่มีตัวอักษรก็ไม่ปรากฏเส้นชีพจรอย่างชัดเจน พื้นที่ที่ชีพจรพลังหยุดนิ่งจะก่อเกิดเป็นน้ำวนที่เป็นรูปทรงตัว 叉 (ชา) อยู่ในน้ำ ไม่มีรูปทรงตัว 叉 นี้ก็จะไม่สามารถเข้าใจสถานการณ์ของหมิงถังเล็กได้
· ถ้าหากภูเขาอั้นซาน (案山) ที่อยู่บริเวณนกหงส์แดงซึ่งเป็นทางด้านหน้าของตำแหน่งนั้นไม่ได้อยู่ด้านหน้า ก็สามารถอาศัยสภาพบริเวณโดยรอบมาปรับได้ ที่เรียกว่านกหงส์แดงหมายถึงภูเขาอั้นซาน (案山) ที่อยู่ด้านหน้าของตำแหน่ง ถ้าหากเขาอั้นซานไม่ได้อยู่ทางด้านหน้าก็สามารถอาศัยสภาพการณ์ของมังกรเขียวและเสือขาวซึ่งอยู่ทางด้านซ้ายและขวามาใช้แทนได้
· ถ้าหากภูเขาที่อยู่บริเวณเต่าดำซึ่งเป็นทางด้านหลังของตำแหน่งนั้นยาวเกินไป ก็ต้องหาพื้นที่ที่ชีพจรมังกรสิ้นสุดให้เจอ ก็คือบริเวณจุดสิ้นสุดการรวมตัวกันของชีพจรมังกรคือตำแหน่งสุสาน คือใช้การมาทางด้านซ้าย ตำแหน่งให้อยู่ริมด้านขวา ใช้การมาทางด้านขวา สุสานให้อยู่ทางด้านซ้าย
· เนินเขาและสายน้ำมาจากทางด้านซ้าย สุสานให้เลือกอยู่ทางด้านขวา เนินเขาและสายน้ำมาจากทางด้านขวา ตำแหน่งสุสานควรเลือกอยู่ทางด้านซ้าย ที่เรียกว่ามา หมายถึง ทิศทางการเคลื่อนตัวของเนินเขาและสายน้ำมาทางเรา ถ้าหากสถานการณ์ของเนินเขาและสายน้ำมาทางด้านซ้ายของเรา ก็ต้องตั้งตำแหน่งสุสานเอาไว้ทางด้านขวา เนื่องจากว่าเนินเขาและสายน้ำมาทางด้านซ้ายก็จะต้องมีการโค้งโอบปกป้องจากพวกมันอยู่ที่ตรงนี้ ดังนั้นจึงตั้งตำแหน่งสุสานเอาไว้ทางด้านขวา ถ้าหากสถานการณ์มาจากทางด้านขวาก็เป็นเช่นเดียวกัน
· ถ้าหากเนินเขาและสายน้ำมาจากทางด้านหน้า ก็ให้เลือกตำแหน่งสุสานเอาไว้ตรงกลางด้านล่าง ถ้าหากสภาวการณ์ของเนินเขาและสายน้ำไม่ได้มาจากทางด้านซ้ายแล้วก็ไม่ได้มาจากทางด้านขวา แต่ปรากฏเริ่มต้นโค้งออกมาจากภูเขาอั้นซาน (案山) สภาวการณ์ของพลังอำนาจของมังกรไกลแสนไกล สามารถเลือกตั้งตำแหน่งสุสานเอาไว้ที่บริเวณตรงกลางด้านล่างได้
· ถ้าหากชีพจรพลังโคจรทวนกระแส ก็ต้องรับเอาการตามกระแสในการทวนกระแส ถ้าหากชีพจรพลังไหลตามกระแสออกมาก็ต้องรับเอาการทวนกระแสในการตามกระแส ที่เรียกว่าตามกระแสและทวนกระแส ก็เป็นเพียงแค่ฉายานามของหยินและหยางสองคำนี้เท่านั้น อาศัยการขึ้นมาจากพื้นดินของชีพจรพลังหยางเป็นการทวนกระแส อาศัยการตกลงมาจากฟ้าของชีพจรพลังหยินเป็นการตามกระแส อาศัยชีพจรพลังหยางเป็นทวนกระแส ชีพจรพลังหยินเป็นตามกระแส นี่ก็มีความแตกต่างกันกับการทวนกระแสและการตามกระแสที่พูดกันในท้องที่อื่นๆ
· การรับเอาการทวนกระแสในการตามกระแส เรียกว่า เหยาหลง (饒龍) การรับเอาการตามกระแสในการทวนกระแส เรียกว่า เจี่ยนหู่ (減虎) ก็คือเนินเขาและสายน้ำมาจากทางด้านขวา ตำแหน่งก็ต้องอยู่ทางด้านซ้าย ก็จะเรียกว่าการรับเอาการทวนกระแส ถ้าหากเนินเขาและสายน้ำมาจากทางด้านซ้าย ตำแหน่งก็ต้องอยู่ทางด้านขวา ก็จะเรียกว่าการรับเอาการตามกระแส
· ถ้าหากเนินเขาและสายน้ำมาจากทางด้านซ้ายไหลลงไปทางด้านขวา ก็ต้องตั้งตำแหน่งที่ด้านขวาเพื่อกั้นขวางมังกร ถ้าหากเนินเขาและสายน้ำมาจากทางด้านขวาไหลไปทางด้านซ้าย ก็ต้องอาศัยทางด้านซ้ายในการตั้งตำแหน่งเพื่อปิดขังเสือ
· ถ้าหากประตูหน้าต่างของตำแหน่งสุสานซึมรั่ว ก็จะเกิดสถานการณ์พลังกระจายตัว ก็จะก่อให้เกิดปากทางน้ำโล่งกว้าง ทำให้พลังที่แท้จริงกระจายตัวตามไป
· ถ้าหากผนังของตำแหน่งสุสานเว้าแหว่งก็จะได้รับลมที่หนาวเย็น สภาพผนังของตำแหน่งสุสานไม่ครบสมบูรณ์พอ ซ้ายมังกรเขียวและขวาเสือขาวจะปรากฏข้อบกพร่อง ซึ่งก็จะหมายถึงตำแหน่งสุสานจะได้รับลมที่หนาวเย็น ถ้าหากต้องการจะชดเชยข้อบกพร่องของสภาพผนังฮวงจุ้ย สามารถอาศัยวิธีการตัดทอนความยาวแล้วปะเสริมส่วนที่สั้นมาดำเนินการได้ ขอเพียงแค่เป็นพลังมังกรที่แท้จริงก็จะสามารถอาศัยฝีมือคนมาช่วยปะเสริมความไม่เพียงพอของมันได้
· ถ้าหากตำแหน่งสุสานแค่หันไปหาน้ำเท่านั้น ก็ต้องเตรียมการป้องกันภัยพิบัติและโรคภัยไข้เจ็บที่จะเกิดขึ้น ตำแหน่งสุสานที่หันหาน้ำนั้นเดิมทีเป็นพื้นที่มงคล แต่น้ำที่มีความโค้งงอและมีไมตรี ถ้าหากไม่มีเนินเขาคอยขวางกั้นน้ำ แล้วน้ำปะทะตรงอย่างรีบเร่ง ก็จะเป็นอัปมงคลและทำให้เกิดภัยพิบัติและโรคภัยไข้เจ็บขึ้นได้
· ตำแหน่งสุสานมีภูเขาเตี้ยๆ อยู่ใกล้เป็นภูเขาอั้นซาน (案山) ถือเป็นมงคล ถ้าหากภูเขาอั้นซานสูงเกินไปจนกระทั่งกดทับเป็นการกีดขวางสายตา ก็จะเป็นอัปมงคล ตำแหน่งสุสานมีภูเขาอั้นซานอยู่ใกล้ก็คือตำแหน่งมงคล แต่ถ้าหากภูเขาอั้นซานสูงเกินไปและกดทับเกินไปจนกระทั่งกดทับเป็นการกีดขวางสายตาก็กลับจะเป็นภัย
· อยากรู้ว่าตำแหน่งสุสานนั้นจริงหรือปลอม ต้องดูว่ามีน้ำที่แบ่งแยกกับน้ำที่ชุมนุมรวมตัวหรือไม่ ที่เรียกว่าใกล้ศีรษะก็คือที่ด้านบนของตำแหน่งสุสานมีน้ำที่แบ่งแยก ที่เรียกว่าตัดขาก็หมายถึงที่ด้านล่างของตำแหน่งสุสานมีน้ำชุมนุมรวมตัวกัน มีเพียงแค่ตำแหน่งสุสานที่อยู่ตรงกลางระหว่างน้ำที่แบ่งแยกกับน้ำที่ชุมนุมรวมตัวกันเท่านั้นจึงจะเป็นตำแหน่งที่แท้จริง มิฉะนั้นแล้วจะถือเป็นตำแหน่งปลอม
· การตั้งตำแหน่งต้องรับเอาพลังชีพจรทางด้านหลัง หลักการรากฐานของการตั้งตำแหน่งคือต้องภายในจะต้องรับเอาพลังชีวิตของตำแหน่งภายนอกจะต้องรับเอาพลังชีวิตของหมิงถัง จะให้ภายในรับเอาพลังชีวิตก็ต้องรับเอาชีพจรที่มาจากทางด้านหลัง แล้วไม่ควรโต้กลับหรือห่างเหินกับชีพจรที่มา จะให้ภายนอกรับเอาชีพจรพลังของหมิงถังก็ต้องทำให้สภาวการณ์ของตำแหน่งสอดคล้องกับสภาวการณ์ของหมิงถัง ซึ่งก็เหมือนกับคู่สามีภรรยาที่ไม่ควรไม่ปรองดองกันเพราะจะทำให้เป็นอัปมงคล
· จากสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปมาของชีพจรมังกร สามารถมองเห็นได้ถึงรูปทรงของคดเคี้ยวของมัน อาศัยสภาวการณ์ที่มาของหยินหยางก็สามารถมองเห็นได้ถึงความสูงต่ำของสภาวการณ์ตำแหน่ง ชีพจรมังกรของตำแหน่งคดเคี้ยวมายังตำแหน่งอย่างไรก็ต้องแสวงหาการเปลี่ยนแปลงของมันอย่างละเอียดถี่ถ้วนจึงจะทราบได้
· ตำแหน่งที่สูงจะต้องมีส่วนที่เว้าเข้าเล็กน้อย เหมือนกับที่ผนังมีพื้นที่เหลือสำหรับแขวนโคมไฟ แต่ต้องไม่ให้เปียกชื้นและมีความมัน ตำแหน่งที่สูงจะต้องมีส่วนเว้าเข้าเล็กน้อย แสดงถึงในพลังหยางต้องมีพลังหยินเล็กน้อย มิฉะนั้นก็จะเป็นหยางบริสุทธิ์แล้วจะทำให้เกิดความเปียกชื้น ในพลังหยินก็จะต้องมีพลังหยางเล็กน้อย หยินบริสุทธิ์จะทำให้ค่อนข้างมีความมัน เหตุผลของวิชาลักษณะภูมิประเทศมักจะเน้นเพียงแค่ในหยินมีหยาง ในหยางมีหยินเท่านั้น
· มองเห็นสถานการณ์ของน้ำผ่านภูเขาไม่ผ่าน ก็แสดงถึงข้อที่ยอดเยี่ยมของสภาวการณ์ตำแหน่ง ที่เรียกว่าน้ำผ่าน หมายถึง น้ำสองสายมาตัดบรรจบกันรวมตัวกัน ที่เรียกว่าภูเขาไม่ผ่าน หมายถึง ชีพจรสิ้นสุดที่เส้นแบ่งเขตน้ำแล้วไม่เดินต่อไป
· ตำแหน่งสุสานมีเพียงแค่สถานการณ์ของตำแหน่งมังกรที่แท้จริงเท่านั้นจึงจะสามารถพูดถึงปัญหาที่ยอดเยี่ยมของสีดินได้ การดูพื้นที่อาศัยการแสวงหาตำแหน่งมังกรที่แท้จริงเจอเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ถ้าหากตำแหน่งสุสานไม่ใช่ตำแหน่งมังกรที่แท้จริง ถึงแม้ว่าสีของดินจะยอดเยี่ยมก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไร ดังนั้นสีของดินจึงเป็นเรื่องรองลงมา
· พูดถึงการเกิดความรุ่งเรืองของกระแสน้ำไหล สำหรับตำแหน่งมังกรแล้ว จะว่าด้วยเพียงแค่การโอบล้อมมีไมตรีของกระแสน้ำเท่านั้น
· เนินเขาและสายน้ำของตำแหน่งสุสานมีร่วมกันกับผู้อื่นจะเทียบไม่ได้กับมีเฉพาะเป็นของตัวเอง ตำแหน่งสุสานที่สามารถใช้เนินเขาและสายน้ำเฉพาะเป็นของตัวเอง แล้วเป็นตำแหน่งสุสานที่ไม่อยู่ร่วมกันเป็นสาธารณะกับผู้อื่น จึงจะเป็นตำแหน่งสุสานที่แท้จริง
หัวใจสำคัญของการหาตำแหน่งที่ตั้งมงคลของสุสาน
หลายคนเชื่อว่าการแสวงหาตำแหน่งมงคลในสุสานสาธารณะนั้นเป็นเรื่องง่าย ซึ่งในความเป็นจริงแล้วไม่เป็นเช่นนั้น เพราะว่าภายในสถานการณ์เดียวกันกับมังกรที่มา การแสวงหาตำแหน่งมงคลในตำแหน่งสุสานที่มากมายขนาดนี้ ก็จำเป็นจะต้องเป็นคนที่มีฝีมือในการเลือกตำแหน่งที่สูงมาก ก่อนอื่นจะต้องดูความอ่อนโยนและความรีบเร่งของมังกรที่มา แล้วจึงค่อยทำการสำรวจด้านหน้า หลัง ซ้าย ขวาของสุสานสาธารณะอย่างละเอียด ว่าตำแหน่งตกลงที่ไหนจึงจะสามารถได้รับพลังมังกร เพราะว่าความแข็งแกร่งและความอ่อนของพลังมังกรที่ได้รับในตำแหน่งสุสานสาธารณะนั้นจะมีความเกี่ยวพันโดยตรงกับความมั่งคั่งร่ำรวยของลูกหลานรุ่นหลัง แล้วหลังจากนั้นจึงค่อยมองดูหมิงถัง เส้นทางน้ำ และเนินเขาจากบนตำแหน่งว่ามีสภาพที่สอดคล้องหรือไม่ นี่เป็นหัวใจสำคัญที่สุดขั้นหนึ่งของการหาตำแหน่งมงคลในสุสานสาธารณะ นอกจากนี้แล้วก็ยังจะต้องหลบเลี่ยงปัจจัยที่ไม่เป็นผลดีดังต่อไปนี้ด้วย
· ตำแหน่งจะต้องอ่อนโยน (ก็คือป้องลมกักพลัง) ตำแหน่งที่เลือกจะต้องหลีกเลี่ยงลม พยายามแสวงหาตำแหน่งที่ไม่มีลมหรือมีลมน้อย
· พยามยามหลีกเลี่ยงที่ด้านหน้าของตำแหน่งมีร่องน้ำเล็กๆ แล้วเป็นกระแสน้ำที่ไหลไป กลายเป็นน้ำจูงวัว (牽牛水 เชียนหนิวสุ่ย) ซึ่งก่อให้เกิดการสูญเสียบุคลากรและทำลายทรัพย์สินของคนรุ่นหลัง
· เข้าใกล้ต้นไม้เกินไปก็ไม่ดี เพราะว่าการยืดขยายของรากต้นไม้จะเป็นการรบกวนโลงศพ ทำให้คนรุ่นหลังไม่สงบ
· ต้องหลีกเลี่ยงน้ำพุที่อยู่ใต้พื้นดิน เพราะว่าการได้รับน้ำพุที่อยู่ใต้ดินจะทำให้การเงินตกต่ำและทำร้ายคนรุ่นหลัง จึงไม่ควรใช้เด็ดขาด
สรุปแล้ววิชาฮวงจุ้ยเชื่อว่าเมื่อเลือกตำแหน่งมงคลที่ดีแล้ว ให้อาศัยมังกรที่มากับเนินเขาและสายน้ำทางด้านหน้า หลัง ซ้าย ขวา ประสานกันกับดวงชะตา และหยวนยุค เพื่อมาตั้งทิศทางที่ดีที่สุด จึงจะสามารถทำให้ลูกหลานรุ่นหลังได้รับการปกป้องคุ้มครองได้
ป่าไม้ฮวงจุ้ยที่ตั้งสุสานที่คอยคุ้มครองชีพจรมังกร
ป่าไม้ฮวงจุ้ยที่ตั้งสุสานเป็นผลิตผลของจิตสำนึกในฮวงจุ้ย มันได้รับการจัดการควบคุมจากทัศนะในทางฮวงจุ้ยที่สืบทอดกันมา ผู้คนในสมัยโบราณของจีนล้วนมุ่งเน้น “การป้องลม” “การรับน้ำ” ซึ่งเป็นหน้าตาของลักษณะพื้นที่ในการเลือกที่อยู่อาศัย หมู่บ้าน เมือง และสถานที่ฝังศพ ให้ความสำคัญกับการเลือกการประสานกันของลมกับน้ำ และพื้นที่ที่เต็มไปด้วย “พลังชีวิต” โดยเฉพาะให้ความสำคัญต่อการเลือกสภาพแวดล้อมที่ต้านลมกักพลัง และป้องน้ำรับน้ำ ทฤษฎีฮวงจุ้ยเชื่อว่าพื้นที่ฮวงจุ้ยที่ดีไม่เพียงแต่จะมีสภาพลักษณะพื้นที่ที่ดี สนามพลังที่ดี อีกทั้งภูเขาและแม่น้ำต้องสวยงาม และสภาพแวดล้อมต้องเหมาะสมกับผู้คน ป่าไม้ที่เจริญงอกงามก็คือการสะท้อนให้เห็นถึงสภาพแวดล้อมฮวงจุ้ยที่ดี บรรพบุรุษในสมัยโบราณนำเอาการห้ามโค่นป่าไม้ มองว่าเป็นการแสดงถึง “ความเป็นมงคล” นำเอาการทำลายป่าไม้ตามอำเภอใจมองว่าเป็นพฤติกรรมที่เป็น “อัปมงคล” ฉะนั้นทฤษฎีฮวงจุ้ยมักจะนำเอาสภาพแวดล้อมระบบนิเวศ “ดินสูงน้ำลึก ต้นไม้ดอกไม้เชียวชอุ่มเจริญงอกงาม” มองว่าเป็นสภาพแวดล้อมฮวงจุ้ยในอุดมคติ พร้อมทั้งนำเอา “พลังที่ดี ป่าไม้ที่งอกงาม และความเป็นมหามงคล” มาเชื่อมโยงเข้าไว้ด้วยกัน ดังนั้นบรรพบุรุษในสมัยโบราณ ด้านหนึ่งก็อาศัยการแสดงออกทางภายนอกของ “สนามพลังที่ดี” ซึ่งก็คืออาศัยป่าไม้ที่เจริญงอกงามมาแสวงหาสภาพแวดล้อมที่ดำรงอยู่ตามอุดมคติ ส่วนอีกด้านหนึ่งก็อาศัยป่าไม้ที่กว้างขวาง หรือการปกป้องคุ้มครองป่าไม้ เพื่อให้ได้รับฮวงจุ้ยที่ดี
ในการปฏิบัติจริงของทฤษฎีฮวงจุ้ยของคนในสมัยโบราณ มักจะอาศัยการปกป้องคุ้มครองชีพจรมังกรมารักษาฮวงจุ้ยพร้อมทั้งเปลี่ยนแปลงมัน เป็นการปกป้องคุ้มครองภูเขาและป่าไม้อย่างมีวัตถุประสงค์ ที่เรียกว่า “ชีพจรมังกร” ก็คืออาศัยสภาวการณ์ทิศทางการยืดขยายของเทือกเขามาเป็นตัวกำหนด เทือกเขาที่สามารถนำมาซึ่งความเป็นสิริมงคลและบุญวาสนาให้กับผู้คนนั้นเรียกร้องให้มีสภาวการณ์ภูเขาที่สูงใหญ่และยืดขยายยาวออกไป ไม่ควรมีภูเขาที่ขาดตอนหรือภูเขาหิน บนภูเขาจำเป็นจะต้องมีป่าไม้ต้นไม้ที่เจริญงอกงาม สามารถสกัดกั้นลมหนาวเย็นที่มาจากทางเหนือได้
ดังนั้น “ชีพจรมังกร” ก็คือเทือกเขาที่ “ป้องลม” “รับน้ำ” และ “ทวีคูณพลังชีวิต” “ชีพจรมังกร” ถูกนำหน้าชื่อด้วยภูเขาฮวงจุ้ย ต้นไม้ดอกไม้ที่เจริญงอกงามบนภูเขาก็คือป่าไม้ฮวงจุ้ย ป่าไม้ฮวงจุ้ยก็คือเส้นผมและเส้นขนของมังกรที่คอยปกป้องคุ้มครองชีพจรมังกร และก็เป็นหัวใจสำคัญของการป้องลมรับน้ำของหมู่บ้าน
ในทัศนคติฮวงจุ้ยที่สืบทอดกันมาที่มีต่อการเลี้ยงดูปกป้อง “ชีพจรมังกร” ในความเป็นจริงก็คือการเลี้ยงดูปกป้องที่มีต่อภูเขาฮวงจุ้ยและป่าไม้ฮวงจุ้ย อาศัยการเพาะเลี้ยงหรือการเลี้ยงดูปกป้องป่าไม้บนภูเขาฮวงจุ้ย เพื่อมาป้องกันไม่ให้น้ำและดินบนภูเขาไหลหายไป รักษาความมั่นคงแข็งแรงของภูเขาฮวงจุ้ยและสภาพแวดล้อมธรรมชาติที่สวยงาม มีภูเขา มีแม่น้ำแต่ไม่มีป่าไม้ ก็เหมือนกับที่คนเราไม่มีขนและเส้นผม และไม่มีเสื้อผ้าเครื่องประดับ ภูเขา แม่น้ำที่สวยงาม มนุษย์จึงจะสามารถมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงและความเจริญรุ่งเรือง ด้วยเหตุนี้ป่าไม้ฮวงจุ้ยก็คือเนื่องด้วยวัตถุประสงค์ของการเลี้ยงดูปกป้อง “ชีพจรมังกร” จึงดำเนินการปลูกต้นไม้ด้วยฝีมือมนุษย์ หรือ ปกป้องดูแลป่าไม้ที่เจริญเติบโตอย่างเป็นธรรมชาติ
คนสุสานเป็นข้าราชการที่ได้รับคำสั่งให้จัดการดูแลสุสานในสมัยราชวงศ์ซีโจว ซึ่งสามารถเห็นได้ว่าประเทศในสมัยราชวงส์ซีโจวนั้นให้ความเป็นรูปธรรมมากต่อข้อกำหนดในการปลูกต้นไม้ ในสมัยราชวงศ์ฉิน สุสานก็เริ่มมีการปลูกต้นไป่ (พืชยืนต้นจำพวกต้นสน) แต่ว่าก่อนสมัยราชวงศ์ฉินนั้นจะมีแต่พระราชวงศ์เท่านั้นที่ปลูก สมัยราชวงศ์ซีฮั่นสำนักขงจื๊อมุ่งเน้นพิธีกรรมชั้นสูง และยิ่งให้ความถูกต้องแม่นยำต่อข้อกำหนดการปลูกต้นไม้ในสุสาน เริ่มตั้งแต่สมัยราชวงศ์ซีฮั่นเป็นต้นไป นอกจากพระราชวงศ์แล้ว พวกเศรษฐี คนธรรมดาสามัญก็ได้มีการเอาอย่าง เริ่มปลูกต้นไม้ในพื้นที่สุสานของบรรพบุรุษ
การปลูกต้นไม้ในสุสาน นอกจากจะเป็นสัญลักษณ์ที่ให้ความเคารพต่อผู้ตายแล้ว ยังเนื่องมาจากสาเหตุของความเลื่อมใสศรัทธาในตัวบรรพบุรุษอีกด้วย การเพาะปลูกป่าไม้ฮวงจุ้ยจึงกลายเป็นพฤติกรรมรูปธรรมที่แสดงถึงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษของเหล่าเชื้อพระวงศ์และลูกหลานรุ่นหลัง และก็ยังทำให้วิญญาณของผู้ตายได้ไปสู่สุคติด้วย คนที่ยังมีชีวิตก็จะได้รับการปกป้องคุ้มครอง
ดังนั้นผู้คนในสมัยโบราณจึงนำเอาสุสานของบรรพบุรุษตั้งไว้บนภูเขาฮวงจุ้ยและป่าไม้ฮวงจุ้ยที่เต็มไปด้วยทิวทัศน์สภาพแวดล้อมฮวงจุ้ยที่ดีบวกกับการปกป้องคุ้มครอง หรือปลูกต้นไม้บริเวณโดยรอบสุสานบรรพบุรุษเพื่อใช้เป็นป่าไม้ฮวงจุ้ยหรือต้นไม้ฮวงจุ้ยของตระกูลนั้นๆ พร้อมทั้งนำเอาสภาวการณ์การเจริญเติบโตที่ดีเลวของป่าไม้ฮวงจุ้ยกับดวงชะตาที่ดีเลวของตระกูลมาประสานเข้าไว้ด้วยกัน ป่าไม้ฮวงจุ้ย (ต้นไม้ฮวงจุ้ย) และความเลื่อมใสศรัทธาในบรรพบุรุษผสมผสานรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ทำให้ยิ่งเต็มไปด้วยความหมายที่ลึกลับ


ติดตามต่อสัปดาห์หน้านะครับ…สวัสดีครับ
ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับฮวงจุ้ยผ่านทางเฟซบุ๊คได้ที่ เพจฮวงจุ้ยอาจารย์หม่า
https://www.facebook.com/pages/ฮวงจุ้ยอาจารย์หม่า
วันที่ 15/02/2557 เวลา 10:27 น.

ไม่มีความคิดเห็น: