เข้าใจฮวงจุ้ยแก้ไขดวงชะตาที่ดี ตอนที่ 9
ฮวงจุ้ยและการใช้หยินจ๋าย
ฮวงจุ้ยหยินจ๋ายกับการผสมผสานของทิวทัศน์สภาพแวดล้อมบริเวณโดยรอบ
การเลือกพื้นที่ในฮวงจุ้ยหยินจ๋ายนั้นสิ่งที่ให้ความสำคัญที่สุดคือการพิจารณาทางด้านฮวงจุ้ย สำหรับมังกร เนินเขา ตำแหน่งน้ำ หมิงถัง ภูเขาที่อยู่ใกล้ ภูเขาที่อยู่ไกล ล้วนมีการจัดเรียงและความพิถีพิถันในรูปแบบโครงสร้างที่แน่นอน รวมไปถึงข้อเรียกร้องทางด้านคุณภาพของรากฐานพื้นที่ตั้ง น้ำ ทิศทาง และดิน โดยเฉพาะกับการเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอย่างแยกกันไม่ได้ของทิวทัศน์ภูเขาและแม่น้ำในธรรมชาติ เพื่อบรรลุถึงภาวะแวดล้อมที่ยิ่งใหญ่สมบูรณ์แบบอย่างที่สุด รวมถึงการบรรลุถึงผลลัพธ์การประสานกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกันของฟ้ากับมนุษย์ ดังนั้นในวิธีการของฮวงจุ้ยเรียกร้องให้การก่อสร้างในฮวงจุ้ยควรจะต้องผสมผสานร่วมกันกับสภาพแวดล้อมและทิวทัศน์บริเวณโดยรอบ เพื่อบรรลุถึงภาวะแวดล้อมการอาศัยภูเขาเป็นตำแหน่ง
ปรมาจารย์ฮวงจุ้ยที่ปราดเปรื่องยอดเยี่ยมสามารถดูความสูงต่ำของภูเขาหลัก ความใกล้ไกลของ ภูเขาอั้นซาน (案山) และ ภูเขาฉาวซาน (朝山) สภาวการณ์โอบล้อมของภูเขามังกรเขียวและภูเขาเสือขาว และสถานการณ์การตามกระแสและทวนกระแสของน้ำ จากวิธีการของฮวงจุ้ย
หลังจากที่เลือกพื้นที่ตั้งตำแหน่งที่ดีตามฮวงจุ้ยได้แล้ว ก็จำเป็นจะต้องทำการประดับตกแต่ง การก่อสร้างซ่อมแซมในแบบฮวงจุ้ย ตามความสูงต่ำของภูเขาหลัก ความใกล้ไกลของภูเขาอั้นซานและภูเขาฉาวซาน สถานการณ์การโอบล้อมของภูเขามังกรเขียวและภูเขาเสือขาว สถานการณ์ของน้ำที่ไหลทวนกระแสและตามกระแส เป็นต้น เช่นภูเขาหลักสูงก็ต้องประกอบกันกับป้ายสุสานที่ค่อนข้างสูงใหญ่ ถ้าหากภูเขามังกรเขียวและภูเขาเสือขาวมีการชำรุดเสียหาย ก็จำเป็นจะต้องเพิ่มเติมมือหรือแขนขึ้นมาเพื่อทำการปกป้อง เป็นต้น
การแก้ไขกับวิธีการกู้สถานการณ์คืนของฮวงจุ้ยหยินจ๋ายและฮวงจุ้ยหยางจ๋าย
ฮวงจุ้ยพื้นที่ล้ำค่าที่เป็นอุดมคติในสายตาของนักฮวงจุ้ยคือ ด้านหลังพึ่งพิงภูเขาหลัก ภูเขาโอบน้ำล้อม มังกรมาของภูเขาหลักจะต้องยาวไกล พลังเชื่อมต่อกันอย่างเจริญรุ่งเรือง ด้านซ้ายและขวาต้องมีเทือกเขาคอยโอบล้อมปกป้อง หรือด้านซ้าย ขวา หน้า หลัง ต้องมีเนินเขาต่างหากที่คอยพิทักษ์ปกป้อง เช่นนี้จึงจะสามารถป้องลมเลี้ยงพลังเอาไว้ได้ นี่ก็คือรูปแบบฮวงจุ้ยในอุดมคติ
ฮวงจุ้ยพื้นที่ล้ำค่าในอุดมคติไม่ใช่ว่าจะมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง และข้อบกพร่องก็มักมีให้เห็นบ่อยๆ การเลือกความเป็นมงคลและหลีกเลี่ยงความเป็นอัปมงคลของคนเรานั้นบางครั้งก็ยากที่จะเป็นที่พึงพอใจ ก็เลยคิดอยากจะไปแก้ไขปรับปรุงชัยภูมิและเสริมข้อบกพร่องเพื่อทำให้มีแนวโน้มไปในทางที่สมบูรณ์
วิธีการแก้ไขปรับปรุงและเสริมนี้หลักสำคัญคือต้องลงมือในด้านการป้องลมกับการรับน้ำ วิธีการที่เป็นรูปธรรมในการป้องลมคือ การเลี้ยงมังกรและเสริมเนินเขา ถ้าหากว่ามังกรที่มาราบต่ำ เนินเขาไม่สมบูรณ์ ไม่เป็นผลดีต่อการป้องลม ก็ต้องให้คนเคลื่อนย้ายดินมาเสริมให้สูงเติมให้เต็ม ทำให้มังกรและเนินเขาสามารถป้องลมและเลี้ยงพลัง
สำหรับการแก้ไขปรับปรุงน้ำเป็นแบบหลายด้านหลายทาง วัตถุประสงค์คือต้องบรรลุถึงการได้รับน้ำ ถ้าหากฮวงจุ้ยรากฐานพื้นที่ตั้งขาดแคลนน้ำ ก็สามารถทำการเปิดเส้นทางในตำแหน่งที่เหมาะสมเพื่อชักนำให้น้ำเข้ามา บางคนก็จะใช้วิธีการเปิดบ่อขุดสระหรือสร้างเขื่อนทำนบเพื่อให้รากฐานพื้นที่ได้รับน้ำ
ถ้าหากว่ามีน้ำแต่น้ำไม่เป็นไปตามอุดมคติ หรือกระแสน้ำเร็วรีบเร่งเกินไป หรือน้ำไม่โอบล้อม หรือกลายเป็นการปะทะ ก็ต้องใช้วิธีการที่สัมพันธ์กันมาเป็นการแก้ไขปรับปรุง เช่น สร้างเขื่อนทำนบเป็นการแก้ไขปรับปรุงเพื่อทำให้กระแสน้ำราบเรียบหรือไหลเอื่อยๆ หรือขุดเส้นทางน้ำเพื่อให้กระแสน้ำเปลี่ยนเส้นทาง เป็นต้น
ประสบการณ์ในการเลือกฮวงจุ้ยที่ตั้งสุสานที่ดีของคนโบราณ
สุสานของจีนในสมัยโบราณเป็นปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมที่ยุ่งยากซับซ้อนอย่างหนึ่ง ซึ่งการเลือกพื้นที่ตั้งสุสานต้องดูฮวงจุ้ย นับตั้งแต่สมัยโบราณมาผู้คนล้วนให้ความสำคัญกับการเลือกพื้นที่ตั้งสุสาน ปัจจัยที่คนโบราณใช้พิจารณาเลือกพื้นที่สุสานนั้นมีมากมาย ต่อไปนี้เป็นประสบการณ์ในการเลือกตำแหน่งในวิชาฮวงจุ้ยที่สืบทอดกันมา
@ พบเจอกับภูเขาหินเหมาะที่จะแสวงหาตำแหน่งดิน สีดินของที่นั่นถ้าหากเป็นสีเหลืองอมแดงอย่างชัดเจน ก็แสดงถึงว่าชีพจรพลังของที่นั่นมีการกระจายตัว บนภูเขาหินถ้าหากว่าหาตำแหน่งดินไม่พบก็ไม่ต้องเลือกตำแหน่ง ถ้าหากว่าสีของตำแหน่งดินที่พบเจอเป็นสีเหลืองอมแดง นี่ก็แสดงว่าชีพจรพลังของตำแหน่งนั้นมีการกระจายตัว
@ บนภูเขาดินกลับควรจะแสวงหาตำแหน่งหิน ถ้าหากสีของหินเป็นสีขาวอมม่วง ก็แสดงถึงว่าเนื้อแท้มีความชุ่มชื้นเป็นมันวาว ถ้าหากบนภูเขาดินหาตำแหน่งหินพบ ตำแหน่งหินก็จะต้องมีสีขาวอมม่วงอย่างชัดเจนในระดับหนึ่ง อีกทั้งเนื้อแท้มีความชุ่มชื้นเป็นมันวาวจึงจะเป็นมงคล ถ้าหากมีความแข็งเหมือนดั่งหินก็จะเป็นอัปมงคล
@ ถ้าหากบนภูเขาหินมีตำแหน่งหิน ก็จำเป็นจะต้องเลือกตำแหน่งหินที่มีความอ่อนนุ่มที่สามารถใช้จอบขุดได้ ที่เรียกว่า “อ่อนนุ่ม” ก็หมายถึงว่าเนื้อแท้ของตำแหน่งมีความชุ่มชื้นเป็นมันวาว
@ ถ้าหากบนภูเขาดินหาเจอเพียงแค่ตำแหน่งดินก็จำเป็นจะต้องมีคุณภาพดินที่แข็งแกร่งจึงจะดี ในตอนนี้คุณภาพดินไม่ควรที่จะชุ่มชื้นจนเกินไป ถ้าหากหาตำแหน่งดินเจอก็เรียกร้องให้คุณภาพดินมีลายที่แน่นแฟ้น ดูเหมือนดินแต่ไม่ใช่ดิน มีระดับความแข็งในระดับหนึ่ง ถ้าหากหาตำแหน่งหินเจอก็เรียกร้องให้คุณภาพหินมีสีสันที่สดใสแจ่มชัด ดูเหมือนหินแต่ไม่ใช่หิน มีความอ่อนนุ่มที่เหมาะสมในระดับหนึ่ง บนภูเขาดินหาตำแหน่งหินเจอก็คือความหมายว่า “ความแข็งในความอ่อนนุ่ม” บนภูเขาหินหาตำแหน่งดินเจอก็คือความหมายว่า “ความเปราะบางในความเหนียวแน่นทนทาน”
@ บนจือหลง (支龍) ถ้าหากว่ามีหินอยู่มากมาย เมื่อผ่าวิเคราะห์ออกมาก็จำเป็นจะต้องมีลวดลายที่แตกต่างกันออกไป ที่เรียกว่า “จือหลง (支龍)” ก็หมายถึงตำแหน่งหินบนภูเขาดินให้มีคุณภาพหินที่แสดงออกถึงลายที่แตกต่างกันเป็นดี
@ ปากตำแหน่ง (口穴 โข่วเซวี่ยะ) ในตำแหน่งหล่งเซวี่ยะ (壟穴) เมื่อใช้จอบขุดลงไปต้องไม่มีฝุ่นควันลอยขึ้นมา ที่เรียกว่า “หล่งเซวี่ยะ (壟穴)” ก็หมายถึงตำแหน่งดินบนภูเขาหิน คุณภาพของดินที่นั่นจำเป็นจะต้องละเอียดอ่อนนุ่มสามารถใช้จอบขุดได้ ถ้าหากมีก้อนหินที่แข็งและหยาบผสมอยู่กระทั่งใช้จอบขุดลงไปแล้วมีควันและไฟปะทุออกมาก็จะเป็นอัปมงคล
@ คุณภาพดินที่แข็งในตำแหน่งสุสานก็จะไม่สามารถสะสมรับเอาพลังชีวิตได้ คุณภาพที่ดินร่วน ก็จะไม่มีพลังหยางที่แท้จริงอยู่ ดินภายในตำแหน่งสุสานควรจะให้มีการกระจายตัวไว้เป็นดี ก็คือไม่แข็งแล้วก็ไม่ร่วน ที่เรียกว่าพลังหยางที่แท้จริง (真陽 เจิน หยาง) ก็คือ พลังชีวิต (生氣 เซิงชี่)
@ การเปิดตำแหน่งบริเวณปลายลิ้นมังกรสามารถทำได้เล็กน้อย แต่ต้องไม่ให้ทำร้ายริมฝีปากมังกร การทำร้ายบริเวณริมฝีปากมังกร ก็จะทำให้สุสานต่ำต้อยเกินไปหรืออาจจะทำให้ตำแหน่งเสียไปก็ได้
@ บริเวณฟันมังกรสามารถเปิดตำแหน่งได้ แต่ต้องไม่ให้ใกล้กับกระดูกเกินไป การเปิดตำแหน่งใกล้กับกระดูกจะทำให้ตำแหน่งสูงเกินไป และกลับจะเป็นการทำร้ายมังกร
@ ขณะที่ตั้งตำแหน่งเกิดหยินหยางดูดกัน นำมาซึ่งภัยพิบัติที่ทั้งแผ่กระจายออกไปและรุนแรงแตกต่างกันออกไป เมื่อพลังหยางมาก็จำเป็นจะต้องยืมพลังหยินมาดูด เมื่อพลังหยินมาก็จำเป็นจะต้องยืมพลังหยางมาดูด นี่ก็คือความหมายของ “พลังหยินมาพลังหยางตั้ง พลังหยางมาพลังหยินตั้ง” ถ้าหากพลังหยางมาแล้วพลังหยางรับ ภัยพิบัติที่มาก็จะแผ่กระจายออกไปอย่างช้าๆ พลังหยินมาแล้วพลังหยินรับ ภัยพิบัติที่มาก็จะรุนแรงและร้ายแรง
@ ถ้าหากตำแหน่งสุสานมีพลังหยางที่อ่อนแอ พลังหยินที่แข็งแกร่งอย่างชัดเจน ขณะที่ทำการตั้งตำแหน่งก็ต้องใช้วิธีการเจิ้งหุยฝ่า (正回法) ที่เรียกว่าสามีอ่อนแอก็คือพลังหยางอ่อนแอ การตั้งตำแหน่งก็ควรจะใช้ วิธีการเจิ้งฉิวฝ่า (正球法) ที่เรียกว่าภรรยาแข็งแกร่งก็คือพลังหยินแข็งแกร่ง การตั้งตำแหน่งก็ควรจะใช้ วิธีการเจี้ยเจ๋อฝ่า (架折法) ซึ่งในที่นี้หมายถึงการพูดถึงด้านหน้าและด้านข้างของสุสาน
@ รูปทรงของสุสานเหมือนกับหน้ามือหรือหลังมือ และในนั้นก็มีความแตกต่างกันของหยินหยาง การตั้งตำแหน่งใช้วิธีการ หมิงฉิวฝ่า (明球法) หรือ อั้นฉิวฝ่า (暗球法) ในนั้นมีความแข็งแกร่งและความอ่อนแอที่แตกต่างกัน รูปทรงสุสานเหมือนดั่งหลังมือแสดงถึงความเป็นหยิน รูปทรงเหมือนดั่งหน้ามือก็จะเป็นหยาง รูปทรงหยินแล้วใช้วิธีการ หมิงฉิวฝ่า (明球法) จะมีความแข็งแกร่งอย่างชัดเจน รูปทรงหยางถ้าหากใช้วิธีการ อั้นฉิวฝ่า (暗球法) จะมีความอ่อนแออย่างชัดเจน
@ พลังชีพจรพลังของตำแหน่งสุสานก็เหมือนกับเส้นด้ายในกลุ่มสีเทา หรือขนในผ้าสักหลาด ที่คลุมเครือไม่ชัดเจนยากที่จะแยกแยะวิเคราะห์ พลังชีพจรของสุสานมีความคลุมเครือไม่ชัดเจนเป็นอย่างมาก จำเป็นจะต้องใช้วิธีการสำรวจทางสายตาที่มีความละเอียดรอบครอบ จึงจะสามารถพบเห็นได้ และไม่ควรที่จะทำด้วยความมุทะลุ
@ ชีพจรคู่ของตำแหน่งสุสานดีที่สุดให้สั้น แต่หากไม่คล้อยตามสภาวการณ์ของตำแหน่ง ก็ควรจะพลิกแพลงหรือปรับให้เหมาะ ชีพจรคู่เรียกร้องให้สั้น นี่เป็นวิธีการ เจิ้งเซวี่ยะ (正穴) แต่ถ้าหากสภาวการณ์ของตำแหน่งไม่เหมาะสมที่จะสั้นก็ควรพลิกแพลงหรือปรับให้เหมาะสม ไม่จำเป็นจะต้องดื้อดึงให้สั้นตามอย่างที่บอก
@ ขณะทำการตั้งตำแหน่งจะต้องสำรวจสถานการณ์บนล่าง คือการแบ่งมังกร ช่องที่ทิ้งไว้สำหรับหยดน้ำฝนระหว่างชายคา การรับพลังของทั้งด้านหน้าและด้านหลัง และการต้อนรับหมิงถัง ตำแหน่งสุสานด้านบนคือการแบ่งมังกร ตำแหน่งสุสานด้านล่างคือช่องที่ทิ้งไว้สำหรับหยดน้ำฝนระหว่างชายคา ด้านหน้าต้อนรับหมิงถัง ด้านหลังรับพลัง นี่เป็นตำแหน่งที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้
@ เมื่อมองเห็นสถานการณ์น้ำโอบล้อม หลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นเส้นแบ่งเขตที่ด้านหน้าของตำแหน่ง ถ้าหากมองเห็นสถานการณ์ของชีพจรพลังแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน คนเราก็มักจะเข้าใจผิดว่าเป็นเส้นแบ่งเขตที่ด้านหลังของตำแหน่ง ที่พูดนี่ก็หมายถึงขณะที่ชีพจรพลังมีการแพร่กระจายและไม่ได้หยุดนิ่ง คนเราไม่ได้สำรวจให้ละเอียดก็นำเอาสถานการณ์น้ำที่โอบล้อมเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเส้นแบ่งเขตทางด้านหน้าของตำแหน่งและทางด้านหลังของตำแหน่ง แต่กลับไม่ได้มองเห็นว่าในขณะนี้เองชีพจรพลังมีการแบ่งออกเป็นซ้ายขวา มีการแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกันแล้วเดินหน้าต่อไป ซึ่งนี่ถือเป็นความผิดพลาดอย่างมาก
@ รูปทรงด้านบนและด้านล่างของตำแหน่งเหมือนกับไถผานเจี่ยว (台盤角 ) แสดงออกถึงพลังหยินมาพลังหยางรับ ที่เรียกว่า ไถผานเจี่ยว (台盤角) ก็คือพลัง หยิน
@ รูปทรงด้านหน้าและด้านหลังของตำแหน่งเหมือนกับเถี่ยเสินฉุน (鐵甚唇) ซึ่งควรจะเป็นชีพจรพลังหยางและมีพลังหยินเป็นตัวถ่วง ที่เรียกว่า เถี่ยเสินฉุน (鐵甚唇) ก็คือชีพจรพลังหยาง
@ รูปทรงบริเวณด้านบนของตำแหน่งราบเรียบ บริเวณด้านล่างแหลม แสดงออกถึงพลังหยางอ่อนแอ บริเวณด้านบนแหลม บริเวณด้านล่างราบเรียบ แสดงออกถึงพลังหยินแข็งแกร่ง ล้วนอาศัยรูปทรงบริเวณด้านบนเป็นหลักในการวินิจฉัยแยกแยะความแข็งแกร่งและความอ่อนแอ
@ เนื่องจากว่ามีการแบ่งแยกของพลังหยินและพลังหยาง จึงจะมีความแตกต่างของการยืดขยายที่ด้านหน้าและการหดลงที่ด้านหลัง ตำแหน่งหยินเหมาะสมที่จะมีด้านหน้ายืดขยายออก ก็คือการคายหลุมฝังศพ (吐葬 ทู่จ้าง) ตำแหน่งหยางเหมาะสมที่จะมีด้านหลังหดลง ก็คือการกลืนหลุมฝังศพ (吞葬 ทุนจ้าง)
@ ในพื้นที่ที่เป็นหยางโดดเดี่ยวถึงแม้ว่าจะไม่มีการแบ่งแยกน้ำ ขอเพียงแค่ให้ตำแหน่งอยู่ตรงกลางก็สามารถที่รับเอาชีพจรแล้วทำการแบ่งแยกน้ำได้ ที่เรียกว่าพื้นที่หยางโดดเดี่ยวหมายถึงบริเวณด้านล่างมีการชุมนุมรวมตัวของน้ำ แต่ด้านบนกลับไม่มีพื้นที่ในการแบ่งแยกน้ำ ในตอนนี้ถ้าหากตรงกลางสามารถตั้งตำแหน่งตรงกลางได้ก็ไม่ควรปล่อยทิ้งไป ขอเพียงแค่พูนดินให้เชื่อมต่อกันในบริเวณที่มาของชีพจรพลัง พร้อมทั้งแบ่งทิศทางของน้ำที่ชุมนุมรวมตัวกันให้ไหลออกไปทั้งสองฝั่งก็ใช้ได้แล้ว
@ ในพื้นที่ที่เป็นหยินโดดเดี่ยวถึงแม้ว่าจะไม่มีน้ำชุมนุมรวมตัวกัน แต่ขอเพียงแค่ให้เป็นพลังมังกรที่แท้จริงก็จะสามารถอาศัยการขุดสระน้ำเพื่อชุมนุมพลังที่มาได้ ซึ่งเป็นการแก้ไขเพื่อกู้สถานการณ์คืน ที่เรียกว่าพื้นที่พลังหยินโดดเดี่ยวหมายถึงบริเวณด้านบนมีการแบ่งแยกของน้ำ พื้นที่บริเวณด้านล่างไม่มีการชุมนุมรวมตัวกันของน้ำ แต่ขอเพียงแค่ให้เป็นพลังมังกรที่ถูกต้องแม่นยำก็ไม่ควรปล่อยทิ้งไป เพียงแค่ขุดสระน้ำบนพื้นที่เพื่อให้น้ำมีการชุมนุมรวมตัวและให้พลังมีการชุมนุมรวมตัว ก็จะสามารถแก้ไขเพื่อกู้สถานการณ์คืนได้ เพราะว่าความเป็นไปได้ของฮวงจุ้ยชัยภูมินั้นมีมากมาย จึงไม่ควรใช้เพียงแค่วิธีการเดียวในการเลือกตำแหน่ง
@ ตำแหน่งเหมือนกับเต่ามีชีวิต แต่บริเวณหางรีบเร่ง การกำจัดหางก็จะทำให้มังกรเสียหาย ที่เรียกว่าหางเต่าจะเป็นพลังหยิน ตำแหน่งสุสานเช่นนี้ไม่เหมาะที่จะเข้าใกล้
@ รูปทรงของตำแหน่งสุสานเหมือนกับตะพาบตายแล้วส่วนหลังราบเรียบ ก็จะทำให้ตำแหน่งเสียหาย หลังตะพาบน้ำเป็นพลังหยาง ตำแหน่งสุสานไม่เหมาะที่จะมีความราบเรียบเกินไป
@ ความใจร้อนของมังกรหยิน ดังนั้นจึงไม่มีตำแหน่งลานฝูติ่ง (拂頂) ความใจกว้างของชีพจรพลังหยางก็อาจจะมีสภาพสุสานชวานเอ่อ (穿耳) ถ้าหากตำแหน่งสุสานเป็นมังกรหยินต้องใช้วิธีการ เจี้ยเจ๋อฝ่า (架折法) ถึงแม้ว่าชีพจรพลังหยางจะใจกว้างก็สามารถใช้วิธีการนี้ได้ด้วยเช่นกัน ที่เรียกว่าสภาพ ลานชวานเอ่อ (穿耳) และ ฝูติ่ง ( 拂頂 ) หมายถึง ทิศทางที่มีมาแต่กำเนิด ไม่ใช่จะสามารถกำหนดได้ด้วยกำลังของคน
@ การตั้งตำแหน่งบนภูเขาที่มีรูปทรงเหมือนกับราวไม้ไผ่หรือไม้ค้ำถ่อ ต้องแสวงหาพื้นที่ที่ราบเรียบ
@ เมื่อตำแหน่งมีรูปทรงเหมือนกับงู ถ้าหากขุดเจาะที่บริเวณหัวงูจะทำให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ตาย เมื่อตำแหน่งมีรูปทรงเหมือนกับปู ถ้าหากขุดเจาะบริเวณกระดองปูก็จะทำให้เกิดความเสียหาย ดังนั้นเมื่อพบเจอกับสถานการณ์ประเภทแรก โดยทั่วไปแล้วจะตั้งตำแหน่งที่บริเวณตางู เมื่อพบเจอกับสถานการณ์ประเภทหลังก็จะต้องตั้งในตำแหน่งที่ห่างออกไปเจ็ดนิ้ว
ติดตามต่อสัปดาห์หน้านะครับ…สวัสดีครับ
ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับฮวงจุ้ยผ่านทางเฟซบุ๊คได้ที่ เพจฮวงจุ้ยอาจารย์หม่า
https://www.facebook.com/pages/ฮวงจุ้ยอาจารย์หม่า
วันที่ 8/02/2557 เวลา 4:02 น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น