เข้าใจฮวงจุ้ยแก้ไขดวงชะตาที่ดี ตอนที่ 8
ฮวงจุ้ยและการใช้หยินจ๋าย
ฮวงจุ้ยหยินจ๋ายมีผลกระทบต่อดวงชะตาคนรุ่นหลังได้อย่างไร
ที่เรียกว่าหยินจ๋ายก็คือสถานที่ฝังโลงศพของบรรพบุรุษหรือก็คือสุสานนั่นเอง ซึ่งเป็นที่ที่พักผ่อนอย่างสงบของบรรพบุรุษที่ได้ถึงแก่กรรมไปแล้ว จึงเป็นเหตุให้เรียกว่า หยินจ๋าย
สิ่งที่สืบทอดกันมาในแต่ละยุคแต่ละสมัยของประชาชนอย่างพวกเราก็คือการให้ความสำคัญกับการเคารพบรรพบุรุษ พิถีพิถันความคิดที่ว่าฟ้ากับมนุษย์รวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ดังนั้นก็จึงมีความเชื่อเป็นอย่างมากที่จะหาสถานที่สงบที่ดีให้กับบรรพบุรุษ และสามารถนำมาซึ่งความเป็นสิริมงคลและความสมปรารถนาให้กับลูกหลานรุ่นหลัง ดังนั้นจึงค่อยๆ กลายเป็นระบบทฤษฎีฮวงจุ้ยที่พิเศษอันนี้
สำหรับฮวงจุ้ยหยินจ๋ายมีหลายคนรู้สึกว่าเหลือที่จะคาดคิดได้ พวกเขาเชื่อว่าหยินจ๋ายเป็นสถานที่ที่ฝังศพคนตาย ถึงแม้ฮวงจุ้ยจะดีอย่างไรก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคนที่ยังมีชีวิตอยู่ ทฤษฎีชัยภูมิของสมัยโบราณเชื่อว่าคนอาศัยพ่อแม่ในการเกิดขึ้นมา หลังจากที่พ่อแม่ตายไปแล้วถ้าหากฝังเอาไว้ในสถานที่ที่ดี กระดูกศพจะสามารถได้รับความอบอุ่นจากพลังดิน หลังจากนั้นก็จะสามารถเกิดบทบาทในการปกป้องให้ความร่มเย็นแก่ลูกหลาน
วิชาฮวงจุ้ยเชื่อว่า หยินจ๋ายกับดวงชะตาคนรุ่นหลังแฝงไว้ด้วยความเกี่ยวเนื่องกันที่ค่อนข้างมาก ซึ่งความเกี่ยวเนื่องกันนี้สามารถใช้ทฤษฎีวิทยาศาสตร์ปัจจุบันมาเพิ่มเติมการอธิบายได้ จากที่หลายคนทราบกันดีว่าโลกคือสนามแม่เหล็กขนาดใหญ่ ส่วนสภาวะแม่เหล็กก็เต็มไปด้วยความสามารถในการบันทึกและการแพร่กระจาย สุสานที่สร้างอยู่ในสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง สนามแม่เหล็กพื้นดินของสถานที่นั้นๆ ก็จะนำเอาสัญญาณของภูเขาและแม่น้ำบริเวณโดยรอบสุสานพร้อมกับสัญญาณของกระดูกศพ และอาศัยรูปแบบของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในการปล่อยส่งออกไปข้างนอก ดังนั้นจึงส่งผลกระทบความเป็นมงคลและความเป็นอัปมงคลที่แตกต่างกันต่อโลกภายนอก
ทำไมจึงมีผลกระทบต่อลูกหลานของตนเองเท่านั้นแล้วไม่มีผลกระทบกับบุคคล เหตุผลนั้นง่ายมาก เพราะว่าลูกหลานกับคนรุ่นก่อนเต็มไปด้วยพันธุกรรมประเภทเดียวกัน และระหว่างคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าของสิ่งมีชีวิตก็เต็มไปด้วยข่าวสารในตำแหน่งเดียวกัน จึงสามารถที่สนองตอบและสื่อสารได้ ก็เหมือนกับวิทยุที่สามารถรับได้เพียงแค่คลื่นไฟฟ้าที่มีความถี่เดียวกันเท่านั้น หลังจากที่ร่างกายคนเราได้รับข่าวสารแม่เหล็กไฟฟ้าชนิดนี้ ก็จะทำให้ภายในร่างกายคนเราเกิดการสนองตอบอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงเกิดผลลัพธ์ความเป็นมงคลและความเป็นอัปมงคลที่แตกต่างกันอย่างต่อเนื่อง
ทำไมหยินจ๋ายที่มีฮวงจุ้ยที่ดีอีกทั้งมีประสิทธิผลนั้นจึงไม่ค่อยพบเห็น
ฮวงจุ้ยหยินจ๋ายเมื่อเทียบกับฮวงจุ้ยหยางจ๋ายแล้วก็จะยุ่งยากซับซ้อนกว่ามาก การแสวงหามังกรประสานตำแหน่ง การประกอบเข้ากันของภูเขามังกรและหันหาน้ำ เป็นต้น ซึ่งก็ถือเป็นขอบข่ายของฮวงจุ้ยหยินจ๋าย
ฮวงจุ้ยหยินจ๋ายพิถีพิถันเรื่องการประกอบเข้ากันของรูปแบบโครงสร้างของธรรมชาติขนาดใหญ่ พิถีพิถันการทวีคูณพลังมังกร อาศัยจุดชุมนุมรวบรวมพลังชีพจรมังกรเป็นตำแหน่ง ประกอบกับได้รับการโอบล้อม รวมถึงการปกป้องจากภูเขาและแม่น้ำจึงได้พลังความขลังของฟ้าและดิน
การประกอบกันที่ยอดเยี่ยมที่สุดของภูเขามังกรหันหาน้ำนั้น ต้องการปรมาจารย์ที่เต็มไปด้วยความรู้หลี่ชี่ชั้นสูงที่ลึกซึ้งร่วมกันกับเงื่อนไขทางดินฟ้าอากาศ ร่วมกันกับดวงชะตาดิน รวมกันกับภูเขาและแม่น้ำ จึงสามารถออกมาเป็นหยินจ๋ายแห่งความมั่งคั่งร่ำรวย สุดท้ายก็คืออาศัยการประกอบเข้ากันของฟ้าดินมนุษย์ทั้งสามสิ่งนี้ จึงสามารถออกมาเป็นความสมบูรณ์แบบ แต่ทว่าในชีวิตประจำวันจริงๆ นั้นหยินจ๋ายที่มีฮวงจุ้ยที่ดีอีกทั้งมีประสิทธิผลกลับมีให้เห็นไม่มาก นี่เป็นเพราะอะไร
· “ตำแหน่งที่แท้จริงของมังกร” ได้มายาก
กล่าวโดยทั่วไปแล้วชีพจรมังกรแต่ละตัว (เทือกเขาหรือแม่น้ำ) ไม่ว่าจะไปประสานตำแหน่งอยู่ที่ใดก็ตามคือต้องให้มีการประสานแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกันของภูเขาและแม่น้ำ (หรือก็คือการแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกันของหยินหยาง) บริเวณที่ชุมนุมพลังจึงจะสามารถประสานตำแหน่งเป็นพื้นที่ได้ อีกทั้งตำแหน่งมังกรมั่งคั่งร่ำรวยที่มีขนาดใหญ่ ในชีพจรมังกรหนึ่งตัวบางทีก็ประสานได้เพียงแค่หนึ่งตำแหน่งหรือไม่กี่ตำแหน่งในจำนวนน้อยเท่านั้น (จะประสานเป็นพื้นที่ได้เท่าไรก็ต้องดูที่รูปทรงของมังกรเป็นตัวกำหนด)
ที่พิเศษไปกว่านั้นคือต่อให้หาตำแหน่งที่ดีเจอ เนื่องจากว่าความสัมพันธ์ของยุคและโชคชะตา เมื่อหาตำแหน่งพบแล้วก็ยังไม่แน่ว่าจะสามารถใช้ได้ทันที อาจจะต้องรอประมาณสิบกว่าปีหรือกระทั่งหลายสิบปี หลังจากนั้นจึงจะสามารถใช้ได้ก็ไม่แน่ ตำแหน่งที่แท้จริงของมังกรเดิมทีก็มีน้อยยิ่งกว่าน้อย ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไปก็จะยิ่งน้อยลง
ปัจจุบันหลายคนล้วนไม่เข้าใจในเหตุผลนี้ ถ้าหากที่ไหนๆ ก็มีตำแหน่งมังกรที่มั่งคั่งร่ำรวยนี้ ทุกคนก็คงรวยกันหมดแล้ว มีนักวิจัยฮวงจุ้ยชี้ว่าตำแหน่งที่แท้จริง มังกรที่แท้จริง นับวันจะยิ่งน้อยลง อีกทั้งไม่สามารถที่จะเกิดขึ้นได้มาอีกแล้ว
· “ปรมาจารย์ฮวงจุ้ย” ไม่แน่ว่าจะยอดเยี่ยมปราดเปรื่อง
อยากหาตำแหน่งที่ดีให้เจอก็จำเป็นจะต้องมีฝีมือที่แท้จริงในการ “แสวงหามังกรเลือกตำแหน่ง” ในโลกฮวงจุ้ยมีคำโบราณกล่าวว่า “สามปีแสวงหามังกร สิบปีเลือกตำแหน่ง” ซึ่งเห็นได้ชัดถึงความลำบากยากเข็ญในการแสวงหามังกรและการเลือกตำแหน่ง
ปัจจุบันฮวงจุ้ยมีความแพร่หลายอย่างกว้างขวาง บนท้องถนนสามารถหาเงาที่เรียกว่า “ปรมาจารย์” ได้เต็มไปหมด แต่ว่าปรมาจารย์เหล่านี้จะมีสักกี่คนที่เข้าใจหนทางแห่งการแสวงหามังกรและการเลือกตำแหน่งอย่างแท้จริง
หลายคนอาจจะเคยได้ยินเรื่องราวที่ว่าข้าราชการชั้นสูงเชื่อในคำพูดของปรมาจารย์ในการแก้ไขฮวงจุ้ย จนทำให้ต้องถูกปลดออกจากตำแหน่งหรือตกบัลลังก์ หรือครอบครัวเศรษฐีครอบครัวหนึ่งใช้เงินจำนวนมากในการเชิญปรมาจารย์มาจัดการเรื่องสุสานของครอบครัว แต่สุดท้ายครอบครัวต้องล้มเหลวสูญเสียทรัพย์สินเงินทอง เป็นต้น ซึ่งเหล่านี้ล้วนเป็นภัยพิบัติจากอาจารย์ชั้นเลว ตำแหน่งที่เลือกโดยปรมาจารย์ชั้นสูงที่แท้จริงจะมีความแม่นยำในการทำให้เกิดความมั่งคั่งร่ำรวย อีกทั้งเนื่องจากความเกี่ยวพันกันของเหตุและผลจึงไม่สามารถที่จะเปิดเผยเจตนาฟ้าอย่างง่ายดาย ดังนั้นตลอดทั้งชีวิตจะทำเช่นนี้เพียงไม่กี่ครั้ง
· ละเลยการเลือกวันที่เป็นมงคล
การเลือกวันที่เป็นมงคลอาจารย์ฮวงจุ้ยในหลายๆ พื้นที่กลับไม่ได้ชักนำให้เกิดความสำคัญที่มากมายนัก หลายคนหลังจากที่เชิญมาดูพื้นที่เรียบร้อยแล้ว เลือกวันในการทำสุสานฝังศพ แต่เวลาที่จะฝังศพบรรพบุรุษจริงๆ นั้นกลับนำเถ้ากระดูกของบรรพบุรุษกลับมาจากสถานที่ฌาปนกิจแล้วส่งตรงไปยังสุสานทันที กลับไม่ได้ทำการเลือกวันใหม่ นี่จึงเป็นเรื่องที่เหมาะเป็นอย่างมาก
เพราะว่าตำแหน่งเป็นที่ที่มีพลังความขลังของพื้นดินอยู่ เวลาใดจึงจะสามารถทำให้เถ้ากระดูกของบรรพบุรุษรวมตัวกับพลังความขลังของตำแหน่งพอดีนั้นเป็นหัวใจสำคัญของการฝังศพ และก็มีเพียงเช่นนี้เท่านั้นจึงจะสามารถทำให้เกิดบุญวาสนาและผลลัพธ์ต่อลูกหลานอย่างแท้จริง
ถ้าหากวันที่ฝังศพตามอำเภอใจนั้นเป็นวันอัปมงคล ก็ไม่ว่าตำแหน่งจะดีมากแค่ไหน อย่างน้อยภายในระยะเวลาอันสั้นก็จะไม่มีความเป็นมงคลแต่เกิดเป็นเรื่องราวความอัปมงคลขึ้นแทน แต่ถ้าหากว่าเลือกเวลาที่เป็นมงคลในการฝังเถ้ากระดูก ผลลัพธ์ก็จะไม่เหมือนกันอย่างแน่นอน ก็จะเหมือนกับสารเร่งปฏิกิริยาในปฏิกิริยาทางเคมีซึ่งจะสามารถโยกย้ายความขลังของพื้นดินให้เกิดผลขึ้นทันที
จะหาตำแหน่งมงคลที่มีพลังชีวิตชุมนุมรวบรวมเจอได้อย่างไร
ฟ้าดินกว้างใหญ่ไพศาลทุกหนทุกแห่งก็มีภูเขาและสายน้ำ จริงๆ แล้วควรจะสร้างสุสานฝังศพเอาไว้ที่ไหน ภูเขาและแม่น้ำของหยินจ๋ายหลักสำคัญคือพิถีพิถันหนทางแห่งการเลือกพื้นที่ฝังศพ หนังสือจ้างซู (葬書) กล่าวไว้ว่า การสร้างสุสานฝังศพควรจะอยู่บนที่ดินที่มีพลังชีวิตที่ควบแน่น แต่พลังชีวิตที่เคลื่อนไหวอยู่ในที่ดินนั้นไร้รูปร่าง แล้วจะต้องทำอย่างไรจึงจะสามารถหาพื้นที่ที่ควบแน่นนี้ได้
วิชาฮวงจุ้ยที่สืบทอดกันมาของจีนชี้ว่า “มังกรที่แท้จริง” “ตำแหน่ง” “เนินเขาโอบล้อม” “น้ำโอบล้อม” กฎเกณฑ์บรรทัดฐานทั้งสี่นี้จะเป็นตัววินิจฉัยพื้นที่ที่มีการควบแน่นของพลังชีวิตบนที่ดิน ภูเขาและสายน้ำใต้ฟ้าถึงแม้ว่าจะแตกต่างกันไปตามแต่ละที่ แต่เพียงแค่อาศัยกฎเกณฑ์บรรทัดฐานทั้งสี่ในการแสวงหา ก็จะสามารถหาเทือกเขาที่มีการควบแน่นของพลังชีวิตออกมาได้ พลังชีวิตในดินถึงแม้ว่าจะไร้รูปร่างที่สามารถแสวงหาได้ แต่รูปร่างที่ขึ้นลงคดเคี้ยวไปมาของเทือกเขาก็สามารถทราบได้ว่ามีการเคลื่อนไหวของพลังชีวิตหรือไม่
คำโบราณกล่าวว่า “มังกรที่แท้จริงตำแหน่งก็จะจริง มังกรปลอมตำแหน่งก็จะปลอม” มังกรเป็นรากฐานของตำแหน่ง ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นจะต้องปฏิบัติตามการเคลื่อนไหวของพลังชีวิตของเทือกเขา จึงจะสามารถหาตำแหน่งมงคลที่มีการควบแน่นของพลังชีวิตออกมาได้ จะพูดแบบนี้ก็ได้คือ มังกรเป็น “เหตุ” ส่วนตำแหน่งเป็น “ผล” การแสวงหามังกรก็เพื่อยึดครองตำแหน่ง ส่วนการเลือกตำแหน่งก็จำเป็นจะต้องแสวงหามังกร
“ตำแหน่ง (穴 เซวี่ยะ)” หมายถึง การหาพื้นที่ประสานตำแหน่งที่ถูกต้องแม่นยำที่มีการควบแน่นของพลังชีวิตออกมา เทือกเขาที่มีการเคลื่อนไหวของพลังชีวิตก็ไม่แน่ว่าจะประสานตำแหน่งที่เป็นมงคลที่มีการควบแน่นของพลังชีวิตออกมาได้ เพราะว่าสภาวการณ์ในบริเวณที่ประสานตำแหน่งของเทือกเขาต่างก็มีความแตกต่างกัน บางแห่งมีเนินเขาโอบมีน้ำล้อม มีความสัมพันธ์ที่ละเอียดใกล้ชิดกัน ทำให้พลังชีวิตที่ควบแน่นนั้นไม่กระจัดกระจายจึงประสานตำแหน่งที่เป็นมงคลออกมาได้ แต่บางแห่งไร้ซึ่งทั้งเนินเขาโอบและน้ำล้อม ไร้ซึ่งความสัมพันธ์กันแม้แต่น้อย ทำให้พลังชีวิตกระจัดกระจายจึงไม่สามารถที่จะประสานตำแหน่งมงคลออกมาได้โดยปริยาย
ฉะนั้นถ้าหากต้องการจะวินิจฉัยว่าบริเวณที่ประสานตำแหน่งนั้นเหมาะสมที่จะฝังศพหรือไม่ ก็จำเป็นจะต้องดูเนินเขาและสายน้ำบริเวณใกล้ๆ กับพื้นที่ตำแหน่ง ดูว่าเป็นภูเขาโอบน้ำล้อมหรือว่าไร้ซึ่งภูเขาโอบและไร้ซึ่งน้ำล้อม
“เนินเขา (砂 ซา)” หมายถึง ภูเขาบริเวณใกล้ๆ พื้นที่ตำแหน่ง ที่ด้านหน้าของพื้นที่ตำแหน่งและซ้ายขวาทั้งสองด้านต้องมีภูเขาโอบล้อม จึงจะสามารถควบแน่นพลังชีวิตให้อยู่ในบริเวณนี้ได้และไม่ถึงกับถูกลมพัดกระจัดกระจายไป ฉะนั้นพื้นที่ตำแหน่งจำเป็นจะต้องป้องลม (ไม่ถูกลมแรงพัดกระจาย) แล้ว “เนินเขาโอบล้อม” ก็เป็นเงื่อนไขสำคัญอันดับแรกในการป้องลม
“น้ำ (水 สุ่ย)” หมายถึง ลำธาร แม่น้ำ หรือกระทั่งมหาสมุทร ที่อยู่บริเวณใกล้ๆ พื้นที่ตำแหน่ง ที่ด้านหน้าของพื้นที่ตำแหน่งถ้าหากมีสายน้ำที่คดเคี้ยวไหลผ่านหรือมีบริเวณที่น้ำมาชุมนุมกัน สามารถทำให้พลังชีวิตที่ควบแน่นอยู่ในพื้นที่ตำแหน่งไม่กระจัดกระจายออกไปภายนอก ฉะนั้นด้านหน้าตำแหน่งมีน้ำโอบล้อมก็เป็นเงื่อนไขสำคัญอันดับแรกในการกักพลัง
วิชาฮวงจุ้ยให้ความสำคัญกับ “เนินเขาโอบสายน้ำล้อม” เพราะว่า “สายน้ำโอบล้อม” สามารถทำให้การควบแน่นของพลังชีวิตในพื้นที่ตำแหน่งมาชุมนุมรวมตัวกัน ส่วน “เนินเขาโอบล้อม” สามารถทำให้พลังชีวิตที่ควบแน่นอยู่ในพื้นที่ตำแหน่งไม่ถูกลมพัดกระจายไป ทั้งสองสิ่งรวมกันเป็นเงื่อนไขของตำแหน่งมงคล ด้วยเหตุนี้ในหนังสือ “จ้างซู (葬書)” กล่าวว่า “วิธีการฮวงจุ้ย ได้น้ำเป็นหลัก ป้องลมเป็นรอง”
กล่าวสรุปคร่าวๆ คือ การแสวงหาตำแหน่งมงคลก่อนอื่นต้องเข้าไปในภูเขาเพื่อแสวงหามังกร ภายในเทือกเขามากมายที่มีความคดเคี้ยวขึ้นลงให้สืบหาเทือกเขาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังชีวิต หลังจากนั้นปฏิบัติตามสภาวการณ์ของเทือกเขานั้นๆ แสวงหาบริเวณที่สิ้นสุด เพราะว่าบริเวณที่สิ้นสุดของเทือกเขามักจะเป็นที่ที่ประสานตำแหน่งที่มีการควบแน่นของพลังชีวิตอยู่
แต่เมื่อหาบริเวณสิ้นสุดของเทือกเขาเจอแล้ว ก็ต้องดูสภาวการณ์ของเนินเขาและสายน้ำในบริเวณใกล้ๆ ด้วย ถ้าหากเป็น “เนินเขาโอบสายน้ำล้อม” ก็แสดงว่าใกล้ๆ กับบริเวณนี้มีตำแหน่งมงคลที่มีการควบแน่นของพลังชีวิต แต่ถ้าหากเป็น “ไร้ซึ่งเนินเขาโอบและสายน้ำล้อม” ก็แสดงว่าพลังชีวิตในบริเวณนี้ไม่สามารถที่จะควบแน่นรวมตัวกันได้ ดังนั้นก็จะไม่มีตำแหน่งมงคลซ่อนอยู่ในนั้น
หลังจากที่หาบริเวณที่มีการควบแน่นของพลังชีวิตได้แล้ว ก็ต้องใช้เข็มทิศหลัวผานมาทำการตัดสินตำแหน่งที่ตั้งของสุสานที่ถูกต้องแม่นยำ ซึ่งนี่ก็คือ “การเลือกตำแหน่ง” ที่เรียกว่า “ขาดไปนิดหนึ่ง ความผิดพลาดมีมากมาย” ฉะนั้นในการเลือกตำแหน่งจึงไม่ระมัดระวังไม่ได้ มิฉะนั้นแล้วสิ่งที่พากเพียรพยายามมาก็อาจจะต้องเสียไป
ติดตามต่อสัปดาห์หน้านะครับ…สวัสดีครับ
ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับฮวงจุ้ยผ่านทางเฟซบุคได้ที่ เพจฮวงจุ้ยอาจารย์หม่า
https://www.facebook.com/pages/ฮวงจุ้ยอาจารย์หม่า
วันที่ 1/02/2557 เวลา 0:53 น.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น